สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงกว่าแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงตามถนนหลายสายในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน โดยพร้อมใจกันโค่นอนุสาวรีย์เลนิน อดีตผู้นำโซเวียต และใช้ค้อนทุบให้แตกเป็นเสี่ยง เนื่องจากพวกเขาไม่พอใจที่รัฐบาลยูเครนหันไปรวมตัวทางเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า “สหภาพศุลกากร” กับรัสเซีย แต่กลับไม่ยอมทำข้อตกลงผูกสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปให้แนบชิดยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ข้ออ้างของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ของยูเครน ที่ระบุว่า พักการทำข้อตกลงกับอียูเอาไว้ ก็เพราะทางรัสเซียไม่เห็นด้วย ยิ่งทำให้ผู้ประท้วงไม่พอใจหนัก พวกเขาจึงให้เวลาประธานาธิบดี 48 ชั่วโมง ในการยุบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืน กลุ่มผู้ประท้วงก็ได้รวมตัวกันโดยนำรถยนต์ สิ่งกีดขวาง และเต็นท์ มาปิดล้อมอาคารสถานที่ราชการแห่งสำคัญ ส่วนการทุบอนุสาวรีย์เลนิน ก็เพราะอนุสาวรีย์นี้เป็นสัญลักษณ์ที่ย้ำเตือนให้เห็นว่า ยูเครนมีประวัติศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งต่อต้านรัสเซีย จึงเลือกทุบอนุสาวรีย์นี้ทิ้ง
ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็เรียกร้องประชาชนออกมาไล่ประธานาธิบดีจนกว่าเขาจะจนมุม และระบุว่า ตอนนี้ยูเครนอยู่บนทางเลือกระหว่างตกไปอยู่ในอำนาจเผด็จการอันเลวร้ายอีกครั้ง หรือกลับไปร่วมกับประชาคมยุโรป
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า นอกจากประชาชนจะออกมาต่อต้านที่รัฐบาลไม่ยอมผูกสัมพันธ์กับยุโรปให้แนบชิดขึ้นแล้ว การประท้วงครั้งนี้ยังเป็นไปเพื่อต้องการกำจัดระบบคอร์รัปชั่นให้สิ้นซากอีกด้วย