เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนประชุมเครียดเพื่อลำดับเหตุการณ์และหาปมสังหาร เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พาณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ตุลาคม บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 โดยมี น.ส.หวาน สาวใช้ชาวพม่านั่งร่วมไปด้วย ระหว่างเดินทางไปหาภรรยาและลูกที่บ้านพักย่านซอยรามคำแหง 162

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนจากสน.มีนบุรี กก.สส.บก.น.3 และบก.สส.บช.น. ที่บก.น.3 พร้อมทั้งเชิญ นายมานพ นางบุญคิด พาณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดา และ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา มาสอบปากคำเบื้องต้น โดยใช้เวลาตลอดคืนจนถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวน พญ.นิธิวดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบพิรุธแต่อย่างใด โดยให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายจักรกฤษณ์เรื่องการปรับปรุงห้องให้ลูกที่บ้านพักในซอยรามคำแหง 174 โดย นายจักรกฤษณ์ ชวน พญ.นิธิวดี ไปพูดคุยเรื่องการปรับปรุงที่บ้านพักในซอยรามคำแหง 174 แต่ นางบุญคิด บอกว่าไม่น่าออกไปเพราะเย็นแล้ว นายจักรกฤษณ์ จึงขับรถออกจากบ้านพักซอยรามคำแหง 174 มาพบ พญ.นิธิวดี เพื่อรับประทานอาหารด้วยกันที่บ้านพักของ พญ.นิธิวดีในซอยรามคำแหง 162 โดย นายจักรกฤษณ์ ได้ชวน น.ส.หวาน สาวใช้ชาวพม่านั่งรถมาด้วย เพราะพี่สาวของ น.ส.หวาน ทำงานอยู่ที่บ้าน พญ.นิธิวดี แต่ระหว่างมาถึงปากซอยรามคำแหง 166 ก็เกิดเหตุขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนสอบสวนได้สอบปากคำ พญ.นิธิวดี เพื่อคลายประเด็นสงสัย กรณีที่ พญ.นิธิวดี มาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และขึ้นรถพยาบาลพานายจักรกฤษณ์ไปส่งโรงพยาบาลด้วย ประเด็นนี้ พญ.นิธิวดี ให้การว่า เนื่องจากหลังเกิดเหตุ น.ส.หวาน สาวใช้ชาวพม่าโทรศัพท์หา พญ.นิธิวดีทันที จึงเดินทางออกจากบ้านพักในซอยรามคำแหง 162 มายังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กันใช้เวลาเพียง 5 นาที สอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.หวาน รวมทั้ง น.ส.หวาน ให้การว่าขณะนั่งมาในรถที่ นายจักรกฤษณ์ เป็นคนขับไม่ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งบนท้องถนนกับใคร

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้จากการสอบสวน พญ.นิธิวดี ถึงข้อสงสัยที่เป็นสาเหตุสังหาร นายจักรกฤษณ์ พบว่า พญ.นิธิวดี ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ ส่วนประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนและการแข่งขันกีฬายิงปืน พญ.นิธิวดี ระบุว่า นายจักรกฤษณ์เคยขัดแย้งกับคนในสมาคมมาตลอด แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยประเด็นนี้ พล.ต.ต.ฐิติราช สั่งการให้ บก.สส.บช.น.ตรวจสอบประเด็นและความเป็นไปได้ว่ามีใครบ้างที่เคยขัดแย้งกับนายจักรกฤษณ์ถึงขั้นต้องการเอาชีวิต

นอกจากนี้ได้สั่งการให้ สน.มีนบุรี และ กก.สส.บก.น.3 ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายจักรกฤษณ์ขับรถออกจากบ้านพักถึงจุดเกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนี แต่เบื้องต้นพบว่ากล้องบางตัวเสียไม่สามารถบันทึกไว้ได้ ส่วนที่บันทึกภาพไว้ได้เป็นกล้องของกรุงเทพมหานครและขณะเกิดเหตุเป็นวันหยุด จึงต้องรอเปิดทำการในวันที่ 21 ตุลาคมจึงจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากกรุงเทพมหานครได้

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เบื้องต้นทีมสืบสวนสอบสวนวิเคราะห์ว่าคนร้ายเป็นมือปืนอาชีพ เพราะกระสุนเข้าจุดตาย และเล็งตรงมาที่เบาะคนขับอย่างเดียว ส่วนเบาะนั่งข้างคนขับไม่พบร่องรอยกระสุน โดยคนร้ายน่าจะติดตามนายจักรกฤษณ์มาจากบ้านพัก หรือไม่เช่นนั้นต้องมีคนส่งสัญญาณให้ลงมือ