ก่อนหน้านี้หนุ่ม “โตโน่ ภาคิน” ได้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ร่วมหุ้นทำค่ายมวยกับอดีตนางเอก “เอ๋ อัจฉรา” แล้ว จนหลายคนสงสัยว่าทั้งคู่น่าจะมีปัญหากันอย่างแน่นอน ล่าสุด เจอตัวสาวเอ๋ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดค่ายมวย อัจฉรายิม ซอยนวมินทร์ 74 โดยสาวเอ๋เผยว่า

 

“ตอนนี้ไม่ได้หุ้นกับใครแล้ว ทำคนเดียวหลังจากมีปัญหากับน้องเขา ทั้งหมดทั้งปวงเริ่มที่เอ๋สุขภาพไม่แข็งแรงและครูเป็ดให้ซ้อมมวยที่ยิมครูเป็ด ซ้อมให้มันดีและก็มีเพื่อนเป็นนักมวยเยอะ จนมันรู้สึกว่าร่างกายดีก็เลยชวนกันมาเปิดและที่บ้านว่างด้วย ครูเป็ดเลยชวนน้องโตโน่มา น้องเขาก็บอกว่าเอาเลยพี่ เขาเป็นคนออกแบบ อย่างน้อยก็เหลือความเป็นโตโน่ที่นี่ เพราะว่าแบบที่นี่ทั้งหมดเขาเป็นคนออกแบบ เปลี่ยนแค่ชื่อจาก หนูโตโน่ เป็นอัจฉรายิม ปัญหาคือมาจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว เราคุยกันไว้สามคนว่า เอ๋ 40 % ในฐานะเจ้าของบ้าน ส่วนน้องและครูเป็ดคนละ 30% ก็ในส่วนที่เป็นยิมแบ่งกัน 30-30-30 ตามเงื่อนไข

 

ส่วนที่เป็นช็อปขายเสื้อผ้า ผมขอ 70% นะ ในขณะที่เขาลง 30% และอีก 30% ให้เอ๋กับครูเป็ดแบ่งกัน เราก็เลยถามเหตุผลน้องเขา บอกว่ามีแฟนเพจ 3-4 แสนคนนะ แฟนเพจผมอาจจะสั่งซื้อแต่ไม่ได้มาเรียน พี่ก็เลยแนะนำน้องไปว่า ไปทำแบรนด์ของตัวเอง ตรงนี้ขอให้เป็นเงื่อนไขนี้ เขาก็บอกว่าไม่ มันเป็นความใฝ่ฝันที่เขาจะมีค่ายมวย เพราะพ่อเขาเป็นนักมวยดังนะ และโตโน่ชกมวยเก่งนะ มีความรู้เรื่องมวยเยอะมาก พอคุยกันแล้วไม่ลงตัวเลยตกลงกันว่าถอยกันก่อนเถอะ เพราะพี่ก็รับไม่ได้ถ้าจะให้พี่ลง 30% และได้แค่ 15% เมื่อแบ่งกับครูเป็ดและมันไม่ถูกต้อง ก่อนหน้านี้คุยรายละเอียดกันตลอดแต่ ไม่ได้คุยเงื่อนไข เพราะหลักธรรมชาติใครลงเท่าไรก็ควรได้เท่านั้น จริงมั้ยคะ คุณลง 30% แต่จะมาเอา 70% เพราะความเป็นโตโน่ เดอะสตาร์ พี่ว่าไม่ถูกนะ เพราะถ้าเป็นอย่างงั้นคุณก็ลงมา 70% สิ

 

น้องเขาก็ยังไม่ได้ลงเงินมาสักบาทเพียงแค่มาออกแบบและวัดที่น้องเขาทำเองหมดเลยนะคะ และตอนนั้นพี่เองก็สำรองเงิน คือเอาเงินไปๆ และนัดมาทำสัญญา โดยสัญญาอยู่ที่พี่หนึ่งฉบับ และที่น้องอีกหนึ่งฉบับที่เซ็นกันเรียบร้อยแล้ว ก็มีหลักฐานและขอยกเลิก น้องเขาไม่ได้เรียกร้องอะไรเพียงแต่บอกว่าถ้าเขาไม่ได้ตรงนั้น ผมก็คงทำไม่ได้ ไว้มีโอกาสนะพี่นะ และเขาก็ถอยเอาดื้อ ๆ เพราะพี่ไม่ยอมเงื่อนไข”

 

ส่วนเรื่องที่ว่าไม่มีปัญหาแต่ก็มีเคืองนั้น สาวเอ๋ ยอมรับพร้อมทั้งชี้แจงว่า “พี่เคืองนะๆ เคืองมาก (เสียงสั่น) ใช้คำว่าเคืองมากแต่ถามว่าโกรธมั้ย พี่คงไม่โกรธน้องเขา แต่เคืองว่า เฮ้ย ไม่หุ้นแล้วคุณไม่มาคุยล่ะ ตอนที่ก่อนหน้านั้นมากันได้ทุกวี่ทุกวัน ครูเป็ดนี้มาทุกวันเลย โตโน่มาหลายครั้งอยู่แต่ไม่ทุกวัน เพื่อมาดูความเคลื่อนไหว มาดูว่ามันคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว สรุปคือยิมตอนนี้เป็นของพี่คนเดียว คือที่เคืองเพราะว่าถ้าเขามีน้ำใจ ไม่ทำไม่เป็นไร มาช่วยดูหน่อยได้มั้ย คือพี่ยังไม่เป็น เหมือนอยากให้สานต่อให้จบ มาให้คำปรึกษาพี่ก็ได้ จากเคยคุยกันวันละหลายครั้ง พอเราไม่ตกลงเงื่อนไขน้องเขา พอโทรไปก็บอกติดถ่ายละครและเสียงพูดก็เปลี่ยนไป พี่ก็แบบคิดในใจ …ก็เคยดังเหมือน…นี่แหละ พี่ก็บอกเขานะ สักวันนึง 18 ปี ที่แล้วที่พี่มายืนอยู่ตรงนี้ สักวันนึงอีก 10 ปีข้างหน้า …ก็จะอยู่ในสภาพ…เป็นอดีตนี่แหละ”

 

ถามว่ากลัวมั้ยว่าจะโดนกระแสแฟนคลับของโตโน่โจมตี “พี่ไม่กลัวนะ เพราะมันคือข้อเท็จจริง พี่เชื่อว่าแฟนคลับไม่ว่าจะของใครๆ แน่นอนความเข้าข้างก็ต้องเข้าข้างคนของตัวเองเป็นหลัก แต่ด้วยเหตุผลและหลักฐานที่มีมันก็น่าจะบอกได้ว่ากว่าจะมีที่ปรึกษา กว่าจะมีทีมเข้ามาช่วยประคับประคองให้มันเสร็จก่อน กับครูเป็ดไม่มีปัญหาอะไร เป็นเพื่อนกันสนิทกันมาก ยังให้คำปรึกษากันอยู่”