เมืองเกนท์​

ปี 2011 นี้จะมีแหล่งท่องเที่ยวอันเต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และประเพณีที่น่าสนใจ และรอให้คุณค้นหาอีกหนึ่งแห่งแล้วในประเทศเบลเยี่ยม

ประเทศเบลเยี่ยมแล้ว คงจะไม่ได้อยู่ในใจหลายๆ คนที่อยากจะท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เบลเยี่ยมมีเมืองที่รอการค้นพบเพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่ในการท่องเที่ยวเหมือนกัน นั่นคือเมืองเกนท์​ (Ghent) เมืองท่าในตอนเหนือของเบลเยี่ยมอันแสนเงียบสงบและสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่

เมืองเกนท์เป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยมีสถานที่สำคัญเช่น ปราสาท Gravensteen อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ไม่ต้องมีการใช้รถยนต์ จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ที่จะมีโอกาสได้เที่ยวชมและสัมผัสเมืองอย่างใกล้ชิด

ถึงแม้จะดูเป็นเมืองที่เรียบง่ายและสงบแล้ว เมืองเกนท์ก็ยังมีกิจกรรมและประวัติศาสตร์ต่างๆที่มีสีสันและน่าค้นหา เช่น

เที่ยวชมประวัติศาสตร์เมืองเกนท์ ด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ปราสาท Gravensteen ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1180 เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของ Philip of Alsace และถึงแม้ว่าประเทศเบลเยี่ยมจะผ่านการรบและสงครามมามากมาย แต่ปราสาท Gravensteen ยังคงผ่านกาลเวลามาได้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดในเมืองเกนท์

เมื่อเที่ยวชมเมืองจนเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาต้องพักเพื่อเติมพลังกันบ้าง สิ่งที่คุณไม่ควรจะพลาดคือการกินมัสตาร์ด อันเป็นส่วนผสมอันเลื่องชื่อของเมืองเกนท์ที่มีมาอย่างช้านาน มัสตาร์ดจากเมืองเกนท์นั้นไม่เหมือนที่ใดเพราะมีเคล็ดลับสูตรพิเศษที่ตระกูล Tierenteyn-Verlent ค้นพบ

การเดินเล่นรอบเมืองเกนท์ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คุณห้ามพลาด เพราะคุณจะได้เห็นทิวทัศน์ที่หายากในยุโรป อีกทั้งการเดินเที่ยวชมเมืองก็ไม่เป็นเรื่องยาก เพราะการออกแบบผังเมืองที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เดินได้อย่างสบาย ซึ่งเส้นทางที่แนะนำคือ การเดินเลียบแม่น้ำ Leie อันอยู่ระหว่างสถานีรถไฟและศูนย์รวมประวัติศาสตร์

Gentse Feesten หรือ Ghent Carnival เป็นหนึ่งในถนนปาร์ตี้ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 2 ล้านคน โดยมีโปรแกรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต, โชว์, การจัดแสดงสิ่งของ และตลาดขายของ ซึ่งจะจัดเป็นระยะเวลา 10 วันทุกๆเดือนกรกฎาคม ก็เป็นสิ่งที่เหล่านักท่องเที่ยวห้ามพลาดเช่นกัน

หากสนใจในการทำอาหารระหว่างการเดินทาง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะเมืองเกนท์เป็นหนึ่งในแหล่งเครื่องปรุงอาหารอันดับต้นๆ รวมไปถึงตลาดชื่อดังในเมือง ไม่ว่าจะเป็น The Great Butchers’ Hall ที่จำหน่ายเครื่องปรุงต่างๆให้กับชาวเบลเยี่ยมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 15

นอกจากนี้ เมืองเกนท์ยังมีหอระฆังประจำเมืองที่สูงตระหง่านถึง 91 เมตร เป็นจุดเด่นของเส้นขอบฟ้า ที่ด้านล่างนั้น เป็น Cloth Hall ที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 15 และได้รับเกียรติเป็น UNESCO World Heritage Site

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวในตอนกลางวันแล้ว เมืองเกนท์ยังมีสีสันยามค่ำคืนที่สวยงามไม่แพ้กันโดยมีเทศกาลแสงไฟทุกๆสิ้นเดือนมกราคม นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ทุกคนควรไปสัมผัสเพื่อประสบการณ์แปลกใหม่ไม่รู้ลืม