สาธิต เซกัล

 

จากกรณีที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ยังไม่ให้เนรเทศนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดีย ออกนอกราชอาณาจักร ตามที่ศรส.ประกาศ และนัดไต่สวนคดีเพิกถอนถิ่นที่อยู่อาศัย วันที่ 26 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 มี.ค.) นายสาธิต เซกัล ได้ขึ้นเวที กปปส. สวนลุมพินี กล่าวว่า ช่วงเวลา 10 วันเป็นช่วงที่ทรมาน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมถามตัวเองว่าผมทำอะไรเลวร้ายถึงขนาดจะต้องเนรเทศหรือ

ตั้งแต่อาศัยแผ่นดินนี้อยู่ คิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรที่จะตอบแทนแผ่นดินนี้ คิดอยู่ตลอดว่าทำอย่างไรที่จะตอบแทนบุญคุณพ่อหลวง อยู่ดีๆ ก็มาเจอข้อหา ที่แปลก เพราะไม่เคยรับรู้ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมาบอกว่าทำอะไรผิด ไม่เคยสอบสวน ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผมไปชี้แจงคำกล่าวหา อยู่ดีๆ ก็ได้รับจดหมายจากกองตรวจคนเข้าเมืองให้ผมคืนถิ่นที่อยู่ และออกจากประเทศไทยที่รักของผม

ตั้งแต่ได้รับจดหมายก็เริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรดี ตอนที่ผมได้รับจดหมายผมก็ได้มีการถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอความเป็นธรรม มีอยู่ 2 สถาบันที่ผมให้ความเคารพและเชื่อมั่น นั่นคือสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันศาลของประเทศไทย ก่อนอื่นผมขอแสดงความชื่นชมที่ศาลได้กรุณาเปิดโอกาสให้ผมอยู่ในแผ่นดินนี้จนกระทั่งคดีของผมถึงที่สุด

แต่ละครั้งที่ผมขึ้นเวทีมีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 ที่อดที่จะพูดไม่ได้ คือความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รักและเคารพเทิดทูน และจะทำไปเรื่อยๆ ประเทศไทยที่รักของท่านและของผมอยู่รอดมาได้ทุกวันนี้จนไม่เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งมังค่าเพราะมหากษัตริย์ มีอยู่ประเทศเดียวคือประเทศไทยที่รักของพวกเรา ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของอาณานิคม สถาบันพระมหากษัตริย์มีบทบาทสำคัญมากของสังคมไทย

ผมซึ้งในน้ำใจของพ่อแม่พี่น้อง เดินไปไหนก็มีคนมาให้กำลังใจ เป็นห่วงผม ขอถ่ายรูป มาขอจับมือ ผมจะไม่ลืมความรู้สึกดีๆ ความเป็นห่วงของพ่อแม่พี่น้อง ในช่วงเวลาที่ผมเหนื่อยที่สุดในชีวิต ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลไทย ผมจะได้รับพระกรุณาเมตตาจากพ่อหลวง จึงจะทำให้ผมยังอาศัยแผ่นดินทองแผ่นดินธรรมที่รักของพวกผมและพวกท่าน