เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดี พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กับพวกรวม 5 คน พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือ สมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญาที่ตนได้กระทำไว้ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จากกรณีร่วมกันอุ้มฆ่า นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย และเชื้อพระวงศ์เหตุเกิด เมื่อปี 2533 หรือเมื่อ 24 ปีก่อน

ศาลได้พิเคราะห์แล้ว พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ โดยอ้างว่า พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานในคดีนี้ นำแหวนของ นายอัลรูไวลี มามอบให้โจทก์ ยังมีข้อพิรุธต้องสงสัยว่า เป็นแหวนของผู้ต้องตายหรือไม่ พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก ไม่น่าเชื่อถือ เชื่อว่าจำเลยทั้ง 5 ไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังจากศาลได้พิพากษา นายอาทิก อัลลูไวลี น้องชายของ มูฮัมหมัด อัลรูไวลี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม รู้สึกผิดหวังที่ศาลพิพากษายกฟ้องคดีนี้ ทั้งนี้ทางญาติจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในเวลา 13.00 น.

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรมปริศนาที่โด่งดัง เมื่อปี 2534 นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพระญาติของกษัตริย์ไฟซาล ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ อีกทั้งยังเป็นคดีที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เป็นคดีที่ชาวซาอุดีอาระเบียยังคงแคลงใจ ซึ่งไม่ได้สนใจแต่เพียงเพชรที่หายไป แต่ใครคือผู้ลงมือฆ่า มูฮัมหมัด อัลรูไวลี

ส่วนทางด้านความน่าเป็นห่วงในเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง ไทย กับ ซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับคดีดังกล่าว นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมจะชี้แจงรายละเอียดให้กับอุปทูตจองซาอุดีอาระเบียให้ได้รับทราบต่อไป