บทประพันธ์ โสภาค สุวรรณ
บทโทรทัศน์ มรุธา
กำกับการแสดงโดย ปิยะพงษ์ คำภากุล
ผลิตโดย จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด

 

บรรยากาศ ณ ชุมชนริมคลองที่สวยงาม และสงบสุขของคลองบางกรวย ไกลออกไปซักระยะหนึ่ง มีหมู่เรือนไทยโบราณร้างอายุเกือบ 100 ปี ตั้งตระหง่านอยู่ เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้างระแวกนั้น เมื่อมองลงไปที่กระแสน้ำพัดพลิ้วไปมาเห็นเป็นเงาคนออกมาจากเรือนไทย เด็กสาวลุกลี้ลุกลน และมีเงาอีกหลายคนวิ่งตามออกมา ตะโกนเรียกไว้ “ชมนาด…ชมนาด ไม่ต้องไป ยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะไป เสียงเด็กสาวตอบกลับมา “ แต่คุณริ้วทองกำลังมีอันตราย ฉันต้องไปช่วยนะ” “ไม่ต้อง… ริ้วทองจะไม่เป็นอะไร เจ้านั่นล่ะ กลับมา เจ้าจะไปได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่สมควรเท่านั้น” เสียงดังดุดันของเงาผู้ชายที่สะท้อนอยู่ในน้ำกังวาลออกมา

 

ส้มเช้ง (อ่อนอุสา ปัญญานิมิต) เกือบเอาชีวิตไม่รอดเมื่ออยากทดสอบความกล้าของตนด้วยการพายเรือออกไปกลางลำคลอง ความเงอะงะของส้มเช้งทำให้เรือขวางคลองจนเกือบชนกับเรือของบูชิตกับเสือ ความตกใจทำให้เรือของส้มเช้งคว่ำ ส้มเช้งว่ายน้ำไม่แข็งพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด ร้อนถึงบูชิตต้องเป็นฝ่ายช่วยลากส้มเช้งขึ้นฝั่ง ยังไม่ทันจะเอ่ยปากขอบคุณ บูชิตก็จัดอบรมชุดใหญ่ในความประมาทของส้มเช้งที่พลอยทำให้คนอื่นเดือดร้อน โชคดีที่พ่อมด (วิมุต ปัญญานิมิต)บิดาของส้มเช้ง เจ้าของบ้านสวนย่าแดงน้อยต้องเข้ามาห้ามศึก ส้มเช้งสุดเซ็งที่รู้ว่าบูชิตกับเสือคือคนที่ป้าโอ่ง พี่สาวของพ่อมดจ้างให้มาทำงานในสวนช่วงปิดเทอม

แม้ตั้งแต่เด็กจนอายุปาเข้าไป 17 ปี พ่อมดจะเฝ้าสั่งสอนส้มเช้งให้รู้จักอดทน ตามอารมณ์ตัวเองให้ทัน จับสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมเพื่อลดความใจร้อนลงได้บ้าง แต่ส้มเช้งก็ไม่อาจลดความหมั่นไส้ที่มีต่อบูชิตได้ เพราะไม่ว่าส้มเช้งจะทำอะไรก็ดูเหมือนบูชิตจะคอยขัดคอยแย้งและทำให้ส้มเช้งเหมือนเป็นเด็กน้อยไม่รู้ภาษาไปซะทุกครั้ง ทุกวันทั้งคู่ต้องกระทบกระทั่งกันตั้งแต่เรื่องเล็ก

น้อยจนลุกลามไปใหญ่โตก็หลายครั้งโดยมีเสือต้องเดือดร้อนเข้ามาเป็นกรรมการห้ามศึกทุกครั้งไป แต่เสือก็มักจะเห็นด้วยกับบูชิต ส้มเช้งเริ่มรู้สึกว่าในระยะนี้มีใครบางคนเฝ้าคอยแอบดูส้มเช้งอยู่ จนกระทั่ง ส้มเช้งได้เจอข้าวใหม่ หรือชมนาด เด็กสาวลึกลับที่มาคอยเฝ้าแอบดูส้มเช้งเสมอ ทั้งส้มเช้งและข้าวใหม่ ทำความรู้จักและเป็นเพื่อนกันได้อย่างรวดเร็ว เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน ข้าวใหม่พาส้มเช้งไปรู้จักบ้านของข้าวใหม่ คือ หมู่เรือนไทยโบราณน่ากลัวหลังนั้น และขอให้ส้มเช้งเก็บเรื่องบ้านของข้าวใหม่ไว้เป็นความลับ สิ่งที่ส้มเช้งได้สัมผัสเรือนไทยนั้นคือ เหล่าดวงวิญญาณที่เสียชีวิตตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกดวงจิตล้วนแต่เป็นมิตรอันดีต่อส้มเช้งไม่ว่าจะเป็นพระยาโกศลโยธารักษ์ ผู้เป็นเจ้าเรือน คุณหญิงแก้ว นมสาย พี่เลี้ยงของข้าวใหม่ บรรดาบ่าวในเรือน แม้กระทั่งร้อยเอกริโอจิ มาคิโน ทหารญี่ปุ่นที่มารักษาตัวและเสียชีวิตบนเรือนไทยแห่งนี้ แรกที่ได้รู้ความจริงส้มเช้งตกใจแต่ไม่หวาดกลัวเพราะหลวงตาบุญมี เจ้าอาวาสวัดนางในที่ชาวคลองบางกรวยศรัทธาในบุญบารมี ท่านได้อธิบายให้ส้มเช้งเข้าใจว่าข้าวใหม่กับส้มเช้งมีสัญญาและความผูกพันกันในอดีต ข้าวใหม่จึงยังวนเวียนเพื่อรอคอยที่จะช่วยเหลือส้มเช้งให้ได้ตามสัญญาจึงจะจากไปตามวิถีกรรมของตนได้ ส้มเช้งจึงตัดสินใจเก็บเรื่องเพื่อนลึกลับไว้เป็นความลับ แต่ก็ไม่วายถูกบูชิตแอลสังเกตุและคอยจับตามองเวลาที่ส้มเช้งหนีไปที่เรือนไทยเสมอ ๆ สร้างความรำคาญและวิตกให้กับส้มเช้งอย่างมาก

เรื่องบูชิตยังไม่ทันคลาย คุณยายโสภา ก็ชักศึกเข้าบ้าน คุณยายโสภาเป็นนักธุรกิจหญิงที่โดดเด่นในสังคมและกินตำแหน่งแม่ยายมหาประลัยที่มีเป้าหมายจะเขี่ยพ่อมด ลูกเขยผู้สมถะ เหตุเพราะคุณยายผู้รักการมีหน้ามีตาในสังคม นิยมเกียรติยศเงินทองเป็นที่สุดต้องการให้สุทธินี ภรรยาของพ่อมดและแม่ของลูกทั้งสามอันได้แก่พี่สาวคนโตมะนาว (อุไรริษา) พี่ชายคนรองแตงโม(วรากร) และส้มเช้ง ที่กินตำแหน่งลูกคนสุดท้อง คุณยายผู้มีเป้าหมายที่จะดึงลูกสาวและหลานๆ ทั้งสามคนไปจากพ่อมดและครอบงำด้วยเงินทอง ความสุขสบาย ด้านสุทธินีเห็นแก่ความสุขสบายของลูก ๆ จึงยอมกลับมาช่วยงานที่บริษัทคุณยายจนทำให้ห่างเหินจากพ่อมด ส่วนมะนาวกับแตงโมก็ถูกปรนเปรอด้วยเงินทองสิ่งของ และมีพี่เลี้ยงสองคนคือคมสันกับจินตนา ที่ถูกจ้างมาคอยดูแลและเป็นคนคอยรายงานความเคลื่อนไหวของหลานๆ ให้กับคุณยาย มีเพียงส้มเช้งที่พ่อมดสามารถนำมาเลี้ยงดูฟูมฟักทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่อย่างใกล้ชิด แม้จะได้สุทธินีกับหลานสองคนไปแต่คุณยายก็ยังพยายามหาหนทางที่ดีกว่าให้กับสุทธินี ด้วยการชักนำชนพ อดีตคนรักคนแรกของสุทธินี ที่ปัจจุบันชนพเป็นม่ายและมีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ชนพหวนกลับมาเห็นสุทธินีที่ยังคงความสวยและได้รู้ว่าความเสน่หาที่ตนมีต่อสุทธินียังเหมือนเดิม ชนพจึงเข้าทางคุณยายโสภา ความกว้างขวางมีหน้ามีตาและมีฐานะของชนพ ทำให้คุณยายคอยเป็นกองหนุนเชียร์ให้ชนพแย่งสุทธินีมาจากพ่อมดให้ได้

พ่อมดหรือวิมุต มีอาชีพเป็นศิลปินวาดรูปตามวัดและโบสถ์ทั่วไป อุทิศตนเพื่อศาสนาและสังคม มีความพอเพียงนำทางชีวิต จึงทำให้ไม่เป็นที่โปรดปรานของแม่ยายนักธุรกิจ เมื่อครอบครัวต้องแยกห่างกัน วิมุตเรียกร้องได้เพียงส้มเช้งลูกสาวคนเล็กคนสุดท้องมาดูแล เพราะความต้องการของส้มเช้งเองที่อยากอยู่กับพ่อมดและกลุ่มเพื่อนของวิมุต(พ่อมด) อันมีลุงชูหรือชูชาติ เจ้าของวินมอเตอร์ไซค์ ลุงกำพลเจ้าของอู่ซ่อมรถ น้าตี๋ เจ้าของร้านกาแฟ ป้าเก หรือเกชาหรือเกศินี เกย์รุ่นใหญ่เจ้าของร้านเสริมสวย ป้าสิว หรือสิวลีคนขับแท็กซี่หญิง ป้าโอ่งคนดูแลสวนของวิมุต(พ่อมด)

พ่อมดกับกลุ่มเพื่อน ๆ ตัดสินใจตั้งชมรม คนรักษ์น้ำ เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะรักษาวิถีชีวิตริมน้ำของชาวคลองบางกรวยและรักษาเรือนไทยโบราณเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมสู่ชนรุ่นหลัง แต่ความวุ่นวายเริ่มคืบคลานเข้ามาเมื่อที่ดินเรือนไทยหมู่โบราณของพระยาโกศลตกอยู่ในมือของสุทธินี ชเลง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พี่ชายของชนพเห็นกำไรมหาศาลที่จะได้จากที่ดินผืนนี้ ชเลงเสนอผลประโยชน์มหาศาลให้กับชนพ ชนพอยากได้ทั้งตัวของสุทธินีและผลประโยชน์จึงตกลงร่วมมือกัน ชนพรู้ว่าสุทธินีรักและห่วงลูกมากจึงให้องอาจ ลูกชายของชเลงที่ซึมซับความก้าวร้าว เห็นแก่ตัวจากพ่อและความเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจมาจากชนพผู้เป็นอาอย่างเต็มเปี่ยมเข้ามาตีสนิทกับมะนาวและแตงโม องอาจพยายามสร้างความศรัทธาให้กับมะนาวและแตงโมให้รู้สึกนับถือในความเป็นเจ้าพ่อ ใช้อิทธิพลมืดพาไปเจอชีวิตวัยรุ่นนอกกรอบ ความตื่นเต้นและได้อยู่ในฐานะคนสนิทขององอาจทำให้ทั้งสองคนรู้สึกมีบารมีและได้อยู่เหนือผู้อื่นหลังจากที่โดนคุณยายบังคับให้อยู่ในคำสั่งตลอดเวลา องอาจสามารถปั่นหัวมะนาวกับแตงโมลับหลังสุทธินีอย่างสะดวกโดยได้ความร่วมมือจากคมสันและจินตนาเพราะทั้งคู่ต้องคอยพึ่งพาองอาจในยามที่เงินขาดมือ มะนาวกับแตงโมถูกชักจูงเข้าสู่ด้านมืดโดยที่คุณยายกับสุทธินีไม่ระแคะระคายมีเพียงแค่พ่อมดที่เฝ้าสังเกตและเห็นพฤติกรรมที่ปลี่ยนแปลง

พ่อมดพยายามจะดึงมะนาวกับแตงโมให้ได้เรียนรู้วิถีทางที่ถูกที่ควร องอาจที่ตามมาอยากโชว์เจ๋งจนมีเรื่องกับเสือ บูชิตเข้าช่วยจนทำให้องอาจคว่ำไม่เป็นท่าองอาจแค้นมากที่เสียฟอร์มต่อหน้ามะนาวกับแตงโมองอาจอาฆาตแค้นตามหาเรื่องบูชิตกับเสือไม่เลิกรา

องอาจเห็นความสวยของส้มเช้งพยายามจะตีสนิท ส้มเช้งพยายามจะหนีโดยมีบูชิตกับเสือคอยช่วยกันตลอด บูชิตกับเสือทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์ส้มเช้ง ทำให้ส้มเช้งยอมสงบศึกด้วย ส้มเช้งได้รู้ว่าที่บูชิตกำลังเรียนแพทย์และที่มาทำงานพิเศษให้กับป้าโอ่งเพราะต้องการจะเก็บเงินเพื่อทำงานอาสาสมัครหน่วยแพทย์กู้ชีวิตโดยใช้จักรยานเป็นพาหนะ ส้มเช้งแอบชื่นชมบูชิตอยู่เงียบๆ ในขณะที่บูชิตก็ได้เห็นมุมน่ารักของส้มเช้งที่แม้จะยังเด็กแต่มีความคิดที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย

บรรยากาศอุ่นๆ ระหว่างทั้งสองคนกลายเป็นความอ่อนหวานที่ต่างเติมให้แก่กันทีละน้อย ยิ่งนานวันส้มเช้งก็ยิ่งสวยขึ้นตามวัย และมีเสน่ห์ที่บูชิตรู้ว่าใครได้อยู่ใกล้ก็อดไม่ได้ที่จะหลงรัก ไม่เว้นแม้แต่เสือ เพื่อนรักของบูชิตเอง เสือสารภาพกับบูชิตว่าหลงรักส้มเช้งและขอให้บูชิตช่วยเป็นพ่อสื่อ ด้วยความรักเพื่อนทำให้บูชิตต้องกล้ำกลืนช่วยเสือจีบส้มเช้ง สร้างความงุนงงให้กับส้มเช้งที่บูชิตตีตัวออกห่างและพยายามยัดเยียดเสือให้กับส้มเช้งจนทำให้ทั้งคู่มึนตึงต่อกัน

พ่อมดขอร้องให้สุทธินีกับมะนาวและแตงโมไปเดินป่าเพื่อเข้าไปไหว้หลุมศพของหลวงพ่อ ของพ่อมด สุทธินีตกลงที่จะไปและบังคับให้มะนาวกับแตงโมไปด้วย ชนพไม่ยอมแพ้จึงชวนองอาจให้ตามไปด้วย บูชิตกับเสือจึงหาข้ออ้างเพื่อตามไปปกป้องส้มเช้งเช่นกัน

ตลอดการเดินทาง สุทธินีได้เห็นสายตาและอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นของพ่อมดที่คอยสั่งสอนเด็ก ๆ ทำให้สุทธินี กลับมารู้สึกดีกับพ่อมดอีกครั้ง ชนพหงุดหงิดและหัวเสีย ด้านส้มเช้งก็งอนบูชิตที่พยายามเลี่ยงและออกห่างจากส้มเช้ง องอาจหลอกมะนาวกับแตงโมที่เบื่อความลำบากในป่าว่าจะหนีกลับบ้านแต่จะออกจากป่าได้ต้องมีคนรู้ทางและส้มเช้งคือคนที่จะนำทางได้ มะนาวกับแตงโมเห็นด้วยช่วยกันหว่านล้อมแกมบังคับส้มเช้งให้ไปด้วยกัน ส้มเช้งกลัวว่าถ้าปล่อยมะนาวกับแตงโมไปจะต้องหลงป่าแน่ๆ จึงยอมรับปาก

เมื่อถึงจุดตั้งแคมป์ มะนาวกับแตงโมก็ดึงส้มเช้งออกมา ส้มเช้งไม่สบายใจที่รู้ว่าองอาจตามมาด้วย ยิ่งเดินห่างจุดตั้งแคมป์ก็ยิ่งหลง องอาจเอาความเงียบและเสียงร้องของสัตว์ในป่ามาหลอกให้มะนาวกับแตงโมวิ่งเตลิดหนีไป องอาจจะเข้าหาส้มเช้ง จู่ๆ ก็ถูกอาวุธที่มองไม่เห็นทำร้ายจนล้มคว่ำไป องอาจแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ส้มเช้งดีใจที่ข้าวใหม่กับร้อยเอกริโอจิ ตามมาช่วยแต่ก็ทำได้แค่ขวางเพราะไม่มีกายเนื้อ ส้มเช้งหนีสุดชีวิต องอาจวิ่งไล่ตามไม่ลดละ องอาจจับส้มเช้งเอาไว้และพยายามจะข่มขืน ส้มเช้งสู้แรงองอาจไม่ได้แต่ขณะที่กำลังจะเสียท่า บูชิตกับเสือก็เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน บูชิตบอกส้มเช้งว่าข้าวใหม่กับร้อยเอกริโอจิเป็นผู้นำทาง ส้มเช้งตกใจที่บูชิตเห็นข้าวใหม่กับร้อยเอกริโอจิ แต่ข้าวใหม่ว่ามันถึงเวลาแล้ว ส้มเช้งได้แต่เก็บข้อสงสัยไว้เพื่อทำเรื่องที่สำคัญกว่าคือตามหามะนาวกับแตงโม

ข้าวใหม่กับร้อยเอกริโอจิช่วยนำทางตามหาจนเจอมะนาวกับแตงโมที่ตกลงไปในธารน้ำจนขาแพลง ส้มเช้ง บูชิต เสือช่วยกันพามะนาว แตงโม และองอาจที่สภาพสะบักสะบอมกลับไปรวมกลุ่มกับพ่อมดที่แค้มป์ ส้มเช้งบอกทุกคนว่าองอาจเป็นคนชักชวนไปจนหลงป่า และพยายามบอกเรื่องที่ลวนลามแต่มะนาวกับแตงโมช่วยแก้ตัวจนกลายเป็นพี่น้องทะเลาะกันเอง ส้มเช้งจึงตัดสินใจเงียบ แต่บรรยากาศในกลุ่มก็ยิ่งแย่ลงเมื่อชนพกับองอาจคึกคะนองทำร้ายสัตว์ป่า พ่อมดโกรธมากแต่ต้องพยายามข่มไม่ให้โทสะเข้าครอบงำ ทำให้สุทธินีเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างผู้ชายทั้งสองคน ชนพรู้สึกได้ว่าสุทธินีเริ่มถอยห่างจากตนเองและหันไปให้ความสนใจกับพ่อมด จบการเดินป่าครั้งนี้สุทธินีก็รู้ใจตนเองว่าแท้จริงแล้วยังรักพ่อมดและต้องการที่จะกลับมาใช้ชีวิตคู่กับพ่อมดอีกครั้ง ในขณะที่พ่อมดเองก็รู้ข้อบกพร่องและขอโอกาสจากสุทธินีอีกครั้ง สร้างความแค้นให้ชนพจนคิดจะทำลายพ่อมดและครอบครัวให้ยับเยิน

ส้มเช้งแปลกใจหลายเรื่องทั้งเรื่องที่ร้อยเอกริโอจิ สามารถทำร้ายองอาจได้และเรื่องที่บูชิตสามารถเห็นข้าวใหม่กับร้อยเอกริโอจิ หลังออกจากป่าส้มเช้งกับข้าวใหม่จึงไปหาหลวงตาบุญมีให้ช่วยอธิบาย ทำให้ส้มเช้งได้รู้ว่าในอดีตลุงชนพคือ พันตรีอะกากิ ซัน เพื่อนร่วมกองทัพของผู้กองริโอจิ อะกากิต้องการแต่งงานกับน้องสาวของผู้กองแต่ผู้กองรู้ว่าอะกากิเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตจึงขัดขวางทุกทาง ทำให้อะกากิวางยาจนผู้กองล้มป่วยและฆ่าผู้กองรวมทั้งเพื่อนทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่ออะกากิกลับประเทศก็ทำให้น้องสาวของผู้กองเสียชีวิต ผู้กองจึงยังวนเวียนรอเพื่อล้างแค้น ส่วนนายองอาจคืออิซามุ ลูกน้องของอะกากิ ส่วนที่นายองอาจตั้งตนเป็นศัตรูกับบูชิตเพราะในอดีต นายบูคือ ร้อยเอกนายแพทย์มิตซูรุ แพทย์ทหารหน่วยเสนารักษ์ และอิซามุคืออริของมิตซูรุ ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกเห็น ส่วนข้าวใหม่ก็เคยได้ช่วยเหลือบูชิตมาก่อนทำให้มีความเกี่ยวเนื่องกันจึงสามารถสื่อสารกันได้ บูชิตได้พบกับบรรดาวิญญาณบนเรือนไทย ความผูกพันแต่หนหลังย้อนกลับมา บูชิตสัญญาว่าจะช่วยรักษาเรือนไทยโบราณทั้งหมดไว้ให้ได้

ชนพเร่งคุณยายโสภาเรื่องรื้อเรือนไม้ แต่สุทธินีขอเวลาตัดสินใจและยอมไปเที่ยวที่เรือนไม้พร้อม ๆ กับคนในชมรมคนรักษ์น้ำ วิญญาณในเรือนไทยต่างพร้อมใจกันจัดงานต้อนรับ แม้จะไม่เห็นภาพแต่เสียงมโหรี และกลิ่นของอาหาร เสียงกระซิบที่ดูยินดีและเป็นมิตร บรรยากาศอบอุ่นทำให้สุทธินีตัดสินใจที่จะเก็บเรือนเหล่านี้ไว้โดยไม่ฟังคำเกลี้ยกล่อมของชนพ แม้คุณยายโสภาก็ไม่อาจเปลี่ยนใจสุทธินีได้ ชนพกับชเลงส่งลูกน้องมาเผาเรือนไม้ บูชิต เสือ ส้มเช้งร่วมมือกับบรรดาวิญญาณบนเรือนจัดการไล่ลูกน้องของชนพกระเจิงไปหมด

เมื่อเห็นว่าแผนของชนพกับชเลงไม่เป็นผล องอาจคิดใช้วิธีสั่นประสาทพวกชมรมคนรักษ์น้ำด้วยการวางยาฆ่าแก๊งค์สามถั่ว เจ้าถั่วตัด ถั่วต้ม ถั่วทอด หมาบ้านแสนซื่อสัตย์ของป้าโอ่ง เรื่องเริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากหมาเริ่มมีคนบาดเจ็บเพราะถูกก่อกวน บูชิตกับเสือ และบรรดาเพื่อนๆ พ่อมดจึงช่วยกันจับตัวพวกมือก่อกวนแต่ไม่ยอมซัดทอดองอาจ องอาจคิดวางแผนให้ลูกน้อง 3 คนขับมอเตอร์ไซค์หวังจะเฉี่ยวให้รถจักรยานกู้ชีพของบูชิตกับเสือล้มคว่ำหวังให้เจ็บสาหัส ร้อยเอกริโอจิขอความช่วยเหลือจากวิญญาณหน่วยทหารที่เคยตั้งฐานบัญชาการแถวนั้นในอดีตให้ช่วยเหลือจนทำให้คนที่เจ็บหนักกลายเป็นลูกน้องขององอาจ

ด้านมะนาวเห็นว่าองอาจให้ความสนใจส้มเช้งมากกว่าตนเองก็ประชดด้วยการหันไปสนใจบูชิตเพื่อเรียกร้องความสนใจ ทำให้ส้มเช้งเข้าใจผิดคิดว่าบูชิตชอบมะนาว ส้มเช้งเสียใจ เสือเข้ามาดูแลปลอบใจความดีของเสือทำให้ส้มเช้งจำต้องยอมรับเสือเป็นคนรัก บูชิตเจ็บปวดแต่ก็เก็บไว้เพื่อความสุขของเพื่อนและผู้หญิงที่รัก

พ่อมดเห็นว่ามะนาวกับแตงโมกำลังจะซึมซับความร้ายกาจมากจนอาจสายเกินแก้ จึงขอให้สุทธินีพามะนาวกับแตงโมมาปฏิบัติธรรมกับหลวงตาบุญมี ชนพกับองอาจพยายามมาขวางและตามมะนาวกับแตงโมกลับไป ทำให้องอาจมีเรื่องกับบูชิตและเสือที่มั่นใจว่าการตายของแก๊งค์สามถั่วต้องเป็นเพราะองอาจ องอาจหลุดปากเพราะหวังสะใจแต่ก็ทำให้มีหลักฐานเป็นเสียงขององอาจ บูชิตจะเอาหลักฐานไปให้ทุกคนฟัง องอาจจะทำร้ายบูชิตแต่ถูกร้อยเอกโอจิเข้ามาขัดขวาง ความโกรธที่เก็บมานานทำให้ร้อยเอกริโอจิเล่นงานองอาจไม่ยั้ง ชนพพยายามเข้ามาช่วยและช็อคที่เห็นวิญญาณของร้อยเอกริโอจิ ชนพต้องลากองอาจหนีเอาชีวิตรอดออกจากวัดไปทันที มะนาวกับแตงโมใส่ร้ายบูชิตกับเสือว่าทำร้ายจนชนพกับองอาจต้องหนีไป ส้มเช้งจึงต้องเล่าความจริงว่าองอาจคือคนที่ฆ่าแก๊งค์สามถั่วและมะนาวกับแตงโมก็รู้เห็นเรื่องนี้ด้วย

องอาจกับชนพคิดใช้ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกทำร้ายพ่อมดกับสุทธินี สั่งให้จินตนากับคมสันมารับมะนาวกับแตงโมไปงานปาร์ตี้ที่คอนโดขององอาจ หวังจะใช้ยากล่อมประสาทผสมในเครื่องดื่มเพื่อบังคับให้มะนาวและแตงโมทำตัวมั่วเหลวแหลก แต่ร้อยเอกริโอจิใช้พลังสับเปลี่ยนแก้วเครื่องดื่ม ทำให้ชนพกลายเป็นคนที่ดื่มยากล่อมประสาทเข้าไป แต่สัดส่วนของยาที่ใส่ในเครื่องดื่มนั้นแรงเกินกว่าร่างกายจะรับไหวทำให้ชนพช็อกและหัวใจวายเสียชีวิต คมสันกับจินตนาชักร้อนใจที่เห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ จินตนาจะขอให้ชนพช่วยแต่พบชนพที่เป็นศพ เสียงหวีดร้องของจินตนาทำให้ทุกคนรู้ถึงการตายของชนพสร้างความโกลาหลให้กับคนที่มาร่วมปาร์ตี้ รวมถึงองอาจ ข้าวใหม่พาส้มเช้ง บูชิต เสือและตำรวจตามมาช่วยจนเกิดปะทะกับองอาจ ผู้คนในงานต่างหนีเอาตัวรอด ส้มเช้งไม่พบมะนาวกับแตงโมเพราะเมื่อทั้งคู่โดนมอมจนไม่ได้สติ คมสันกับจินตนากลัวว่าทั้งคู่จะตายจึงชิงพาส่งโรงพยาบาลแต่เพราะเรื่องใหญ่เกินจะรับผิดชอบไหวจึงตัดสินใจโทรบอกความจริงกับพ่อมดและสุทธินี

มะนาวกับแตงโมได้รับการรักษาจนฟื้นคืนสติและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่คอนโดให้พ่อมด สุทธินีและคุณยายโสภาได้รับรู้ถึงความเลวร้ายขององอาจ คุณยายเสียใจมากที่ตนเป็นต้นเหตุจนเกือบทำให้หลานๆ ต้องเสียอนาคต คุณยายจึงตัดสินใจยอมให้ลูก ๆ ทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อมดและไม่คิดจะพรากพ่อแม่ลูกออกจากกันอีก ทำให้สุทธินีกับพ่อมดกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ร่วมกันอีกครั้ง

หลังตกเป็นข่าวใหญ่ องอาจต้องหนีหัวซุกหัวซุนโดยมีชเลงวิ่งเต้นช่วยให้องอาจรอดจากคดี องอาจแค้นที่บูชิตกับเสือพาตำรวจมาทลายปาร์ตี้จึงสั่งมือปืนให้ไปเก็บบูชิตกับเสือให้ได้

ส้มเช้งรู้เรื่องจากข้าวใหม่ ส้มเช้งร้อนใจขอให้มะนาวกับแตงโมช่วยพาไปหาบูชิต บูชิตกับเสือพยายามหนีให้พ้นการไล่ล่า องอาจทนรอไม่ไหวมาขวางจะลงมือยิงบูชิตด้วยตัวเอง แต่ส้มเช้งกระโดดเข้าขวางกระสุน ทุกคนตกใจที่ส้มเช้งถูกยิง องอาจไม่ละความพยายามที่จะฆ่าบูชิต แต่เพราะถึงเวลาที่องอาจจะต้องชดใช้กรรม เมื่อบูชิตกับองอาจแย่งปืนกันทำให้ปืนลั่น ดวงวิญญาณขององอาจหลุดจากร่างพร้อมๆ กับที่ยมทูตมาลากดวงวิญญาณขององอาจลงไปชดใช้กรรมในนรก

ในช่วงความเป็นความตายส้มเช้งได้เห็นเรื่องราวในอดีต ส้มเช้งได้รู้ว่าตนเองคือคุณริ้วทอง คนรักของร้อยเอกนายแพทย์มิตซูรุ และภาพเหตุการณ์วันที่มิตซูรุถูกอิซามุยิง คุณริ้วทองวิ่งเข้าไปประคองร่างมิตซูรุที่ค่อยๆ หมดลมหายใจ มิตซูรุสัญญาว่าจะตามมาพบคุณริ้วทองทุกชาติไป ภาพต่อไปคือภาพที่ริ้วทองอยู่ในหลุมหลบภัยภายในสวนของคุณย่าแดงน้อย ภาพที่เห็นสุดท้ายคือภาพระเบิดที่ถูกทิ้งลมา นั่นคือที่ ๆคุณริ้วทองเสียชีวิตท่ามกลางความเสียใจของข้าวใหม่และทุกคนในเรือนไทย

หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญคืนนั้น เสือขอเป็นฝ่ายหลีกทางให้กับบูชิตกับส้มเช้ง เพราะรู้ซึ้งแล้วว่าส้มเช้งรักบูชิตมากกว่าชีวิตตนเอง เสือบอกความจริงว่าที่บูชิตทำเย็นชากับส้มเช้งเพราะเสือขอร้องและตอนนี้บูชิตคิดจะหนีด้วยการย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ส้มเช้งจะตามไปปรับความเข้าใจกับบูชิตแต่ก็สายเกินไปเพราะบูชิตเดินทางไปแล้ว ส้มเช้งเสียใจแต่พ่อมดที่ได้รู้ทุกเรื่องราวเตือนสติให้ส้มเช้งใช้ชีวิตและทำหน้าที่ตัวเองต่อไป ถ้าเชื่อในความผูกพันสักวันบูชิตจะต้องกลับมาตามสัญญา

คุณยายโสภาและสุทธินีตัดสินใจร่วมมือกับชมรมคนรักษ์น้ำบูรณะเรือนไทยหมู่ทั้งห้าหลังให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในบรรยากาศชาวบ้านอย่างแท้จริง ส่วนพ่อมดกับเพื่อน ๆ ก็ช่วยกันต้อนรับ ดูแล และจัดกิจกรรมจนผู้คนให้ความสนใจและได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่อนุรักษ์วัฒนธรรมเพื่อสืบทอดสู่ชนรุ่นหลัง ส้มเช้งสอบติดคณะนิติศาสตร์ หวังจะเป็นทนายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมาย ส้มเช้งได้แต่ถามข่าวบูชิตจากป้าชิดจันทร์ แม่ของบูชิต เพราะตลอดสี่ปีที่จากกัน ส้มเช้งไม่เคยได้รับการติดต่อจากบูชิตเลย ส้มเช้งยังเฝ้ารอจนรู้ข่าวว่าบูชิตมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ เป็นแพทย์ทหารอยู่ที่อุดรธานี ข้าวใหม่คอยให้กำลังใจส้มเช้งแต่ยิ่งนานวัน ความหวังของส้มเช้งก็ดูจะริบหรี่

วันที่ส้มเช้งจะรับปริญญา ครอบครัวและเพื่อน ๆ พ่อพาส้มเช้งไปหาหลวงตาบุญมีเพื่อทำบุญ และรับพรจากหลวงตา ขณะที่ทุกคนกำลังจะกรวดน้ำ หลวงตาเรียกเด็กวัดคนใหม่เข้ามา ทุกคนตะลึงที่เห็นว่าเด็กวัดที่ก้าวเข้ามาคือบูชิตในชุดเครื่องแบบร้อยเอก บูชิตเข้ามากราบหลวงตาและทุกคนๆ ส้มเช้งตะลึงทำอะไรไม่ถูก หลังกรวดน้ำเสร็จพ่อมดให้ส้มเช้งนำน้ำไปเทที่ใต้ต้นไม้ใหญ่และอนุญาตให้บูชิตตามไป บูชิตตามมาแต่ส้มเช้งเกิดอาการงอนจนบูชิตต้องง้อและสารภาพว่ารักส้มเช้งตั้งแต่แรกเห็น บูชิตตั้งใจที่จะไม่ติดต่อเพราะอยากสร้างฐานะเพื่อให้ผู้ใหญ่เชื่อมั่นในตัวบูชิตว่าจะสามารถดูแลส้มเช้งได้ ส้มเช้งอึ้งเมื่อบูชิตคุกเข่าขอแต่งงาน ส้มเช้งตอบตกลงท่ามกลางความยินดีของทุกคน

การแต่งงานของบูชิตและส้มเช้งถูกจัดที่เรือนพระยาโกศลโยธารักษ์ วิญญาณทุกดวงต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับส้มเช้งและบูชิตด้วยเสียงเพลงกล่อมห่อจากเครื่องดนตรีมโหรี ก่อนที่วิญญาณทุกดวงจะต้องไปตามทางของตนตามวิถีกรรมของแต่ละคน ส้มเช้งรู้สึกอาลัยอาวรณ์แต่พ่อมดสอนเสมอว่าเมื่อมีพบย่อมมีจากเป็นธรรมดาของชีวิต หากทางที่เขาต้องเดินคือทางที่เป็นสุขนั่นคือสิ่งที่เราควรยินดี ในขณะที่เราต้องใช้ชีวิตต่อไป ..ชีวิตที่เกิดมาเพื่อใช้กรรมและสร้างบุญบารมีตราบชั่วอายุขัย เพราะคำสอนของพ่อมดที่ทำให้ส้มเช้งเลือกที่จะใช้ชีวิตที่มีคำสอนของพุทธศาสนานำทาง ไม่ต้องมีอิทธิ์ฤทธิ์ปาฎิหาริย์ใด ๆ เสกสร้าง พ่อที่คอยปกป้องลูกด้วยความรักช่วยให้ชีวิตของลูกสุขสงบราวกับมีเวทย์มนต์ ความรักของพ่อแม่ช่างมหัศจรรย์นัก และส้มเช้งจะสอนให้ลูกหลานรู้ว่าพรจากความรักและปรารถนาดีของพ่อแม่นั้นมอบสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตของลูกคนหนึ่งมากแค่ไหน และส้มเช้งภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกสาวพ่อมด

 

คาแรกเตอร์ตัวละคร เรื่อง “ ลูกสาวพ่อมด”

1. บูรพา / มิตซูรุ แสดงโดย สรวิชญ์ สุบุญ

2. ส้มเช้ง / ริ้วทอง แสดงโดย พริมา พันธุ์เจริญ

3. วิมุต แสดงโดย ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี

4. สุทธินี แสดงโดย สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ

5. ชนพ / อะกากิ ซัน แสดงโดย เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล

6. องอาจ / อิซามุ แสดงโดย บอย โชคชัย บุญวรเมธี

7.ชเวง แสดงโดย วิวัฒน์ ประสมทรัพย์

8. ร้อยเอก ริโอจิ มาคีโน่ แสดงโดย มาวิน ทวีผล

9. ชิดจันทร์ แสดงโดย มยุริญ ผ่องผุดพันธ์

10. โสภา แสดงโดย พนารัตน์ พิสุทธิ์ศักดิ์ บุนนาค

11. ป้าโอ่ง แสดงโดย พิมแข กุญชร ณ อยุธยา

12. สิวลี แสดงโดย ผัดไท ดีใจ ดีดีดี

13. ตี๋(เจ้าของร้านกาแฟ) แสดงโดย เฮียหมู (สมเจตน์ พยัฆโส)

14. ชูชาติ(เจ้าของวิน) แสดงโดย พี่โป๊งเหน่ง

15. เกชา หรือ เกศิณี แสดงโดย โกโก้ กกกร

16. กำพล(ก๊วนวิมุต) แสดงโดย ทองขาว ภัทรโชคชัย

17. กานดา แสดงโดย เทพยุดา ศรียาภัย

18.เสือ แสดงโดย ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ

19. มะนาว แสดงโดย เจสสิก้า ภาสะพันธุ์

20. แตงโม แสดงโดย อัครพล อังสุภูติพันธ์

21. ชมนาด(ข้าวใหม่) แสดงโดย กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย

22. พระยาโกศลโยธารักษ์ แสดงโดย ราม ราชพงศ์

23. คุณหญิง แสดงโดย สุรัตนา ข้องตระกูล

24.หลวงตาบุญมี แสดงโดย ยอดชาย เมฆสุวรรณ

25. หมู แสดงโดย เบนจามิน วาร์นี่

26.คมสันต์ แสดงโดย เก่ง ชัชวาล

27.จินตนา แสดงโดย เปรี้ยวAF

28.ตะวันฉาย แสดงโดย น้องพราว การัญชิดา คุ้มสุวรรณ

29.ป๋อง แสดงโดย คิง ก่อนบ่าย