ละครดุจดาวดิน

“ทินภัทร” หรือ “บุญทิ้ง” ทายาทมหาเศรษฐีที่หายสาบสูญไปเพราะความริษยาและอาฆาตของพี่น้องในตระกูล บุญทิ้งระเหเร่ร่อนท่ามกลางความโหดร้ายจนได้เข้าไปอยู่ในคณะลิเกจนกลายเป็นลิเกเด็กขวัญใจมหาชน สายเลือดที่สูงส่งดุจดาวที่พราวฟ้ากลับต่ำต้อยและด้อยค่า ทว่าสวรรค์ยังมีตาที่นำพา “ภาคิน” กับ “ปานฟ้า” สองหนุ่มสาวผู้มีใจรักต่อกันและมีอุดมการณ์อันแรงกล้าช่วยเหลือให้เขาได้กลับสู่ฟ้าดังเดิม
ดาวดิน ละครโทรทัศน์ แนวดราม่าเข้มข้น ที่ปลุกปลอบหัวใจผู้คนให้เชื่อมั่นว่าความดีย่อมคงทนดุจดั่งดาวที่เจิดจำรัส แม้ว่าจะเป็นเพียง “ดาวดิน” แต่ศักดิ์ศรีแห่งดาวก็ย่อมพราวพร่างอยู่บนฟ้าในที่สุด

…………………………………………………………………………………………………………………

ยามดึกสงัด ขณะที่ชีวิตของผู้คนกำลังหลับใหล แต่ชีวิต ของเด็กชาย “บุญทิ้ง” (ด.ช.ภูผา รัตนรุ่งเรืองชัย) ต้องทำงานเป็นเด็กเช็ดรองเท้าตามร้านค้าริมทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาถูก พ่วง หัวหน้าแก๊งเด็กเร่ร่อนบังคับให้หาเงิน และบุญทิ้งก็เป็นเด็กที่ทำเงินให้พ่วงมากที่สุด เพราะทำให้ใครเห็นก็สงสาร แต่แล้วสวรรค์ของพ่วงก็ทลายลงเมื่อ ภาคิน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กร่วมมือกับร้อยตำรวจโทตุลย์ (กันตพงษ์ บำรุงรักษ์) จับกุมแก๊งขอทานในค่ำคืนหนึ่ง พ่วงถูกจับทำให้เด็กๆ หลายชีวิตต้องมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิของภาคิน รวมถึงบุญทิ้งด้วย

หลายวันต่อมา ภาคิน นำเด็กๆ ไปแข่งขันวาดภาพที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางกรุง ขณะที่เด็กๆ กำลังวาดรูปกันอยู่นั้นภาคินเกิดมีปากเสียงกับ ปานดาว (มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้บริหารของห้างสรรพสินค้า ปานฟ้า (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ซึ่งเป็นแม่งานห้าม แต่ก็ไม่เป็นผล ภาคินนำเด็กๆ กลับ ผลการประกวดปรากฏว่าบุญทิ้งได้รับรางวัลชนะเลิศ ปานฟ้าจึงนำเงินรางวัลมามอบให้ที่มูลนิธิ โดยมี ก้องภพ (กฤษณ์ ไตรรัตน์) คู่หมั้นของเธอไปด้วย ปานฟ้าเกิดความศรัทธาการทำงานของภาคินเป็นอย่างมาก ทำให้ก้องภพไม่พอใจ การมาของปานฟ้าทำให้ เฟื่องแก้ว (ธันยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ซึ่งแอบรักภาคินอยู่หวั่นเกรงว่าจะเสียภาคินไป จึงแอบน้อยใจเงียบๆ

ก้องภพกับภาคินเป็นพี่น้องต่างมารดากัน แม่ของก้องภพคือ คุณหญิงวิมลวรรณ (วาสนา พูลผล) ตั้งข้อรังเกียจที่ภาคินเป็นลูกที่เกิดจากนางเอกลิเกนามว่า บุษบา (รัชนีกร พันธุ์มณี) ซึ่งมาได้เสียกับ อานนท์ (โอลิเวอร์ บีเว่อร์) ผู้เป็นสามีในงานแสดงที่บ้าน วิมลวรรณยึดลูกของบุษบาไว้ แล้วไล่บุษบาออกไปจากบ้าน ก้องภพจึงมักแสดงท่าทีข่มภาคินเป็นประจำ ทำให้ภาคินมุ่งมั่นทำงานมูลนิธิ โดยไม่ใส่ใจสมบัติของครอบครัว ส่วนบุษบายึดอาชีพลิเกเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “กัญญา” (รัชนีกร พันธุ์มณี) ทำหน้าที่ฝึกสอนและแสดงด้วย คนในคณะเรียกเธอว่าแม่ครูกัญญา บุษบาติดตามความเคลื่อนไหวของครอบครัวอานนท์อยู่เป็นประจำ เธอจึงทราบว่าลูกชายของเธอเป็นใคร อยู่ที่ไหน

จุดประสงค์ของปานฟ้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานของภาคินก็คือการตามหา “ทินภัทร” (ด.ช.ภูผา รัตนรุ่งเรืองชัย) ลูกชายของ ปานเดือน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) พี่สาวคนกลางซึ่งสูญหายไปตั้งแต่อายุเพียงหนึ่งขวบ ปานเดือนเสียสติจนต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ ปานดาวกับ ภูวดล (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) ผู้เป็นสามีพยายามตอกย้ำว่าปานเดือนเป็นบ้า ทำลูกหาย อาการของปานเดือนมีแต่แย่ลง ทำให้ปานดาวกับภูวดลเชื่อมั่นว่า ธัญวิทย์ (ด.ช.พัทธเศรษฐ์ คุณเจริญ) หรือน้องธัญ ลูกชายของตนจะเป็นผู้ครอบครองมรดกมหาศาลของตระกูลเพียงคนเดียว

ปานฟ้าพาปานเดือนมาที่มูลนิธิ ปานเดือนถูกชะตากับบุญทิ้ง จึงขอ เติมบุญ (วันชัย เผาวิบูลย์) กับ สายอุษา (นวลปรางค์ ตรีชิต) ผู้เป็นพ่อแม่ว่าจะอุปการะบุญทิ้งในฐานะลูกที่หายไป อนิรุทธิ์ (ปีเตอร์ ธนะสูตระ) สามีของเธอก็เห็นว่าบุญทิ้งอาจช่วยเยียวยาอาการป่วยของปานเดือนได้ ปานดาวเกรงว่าธัญวิทย์ ลูกชายตนจะถูกแบ่งสมบัติจึงให้ พิม (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) คนเลี้ยงธัญวิทย์หาทางกำจัดบุญทิ้งเสีย พิมใช้ให้ก้าน สามีที่เพิ่งออกจากคุกมาลักพาตัวบุญทิ้งไปจากมูลนิธิ แต่บุญทิ้งหนีไปได้ โชคชะตานำพาให้บุญทิ้งไปพบแม่ครูกัญญา ต่อมาไม่นาน แม่ครูก็สอนให้บุญทิ้งร้องรำลิเกจนกลายเป็นลิเกเด็กขวัญใจคนดูไปในเวลาไม่นาน

การหายตัวไปของบุญทิ้งทำให้ปานฟ้ากับภาคินร่วมมือกันตามหา เฟื่องแก้วกับตุลย์ร่วมติดตามไปด้วย ก้องภพขัดขวางและหาทางนำตัวปานฟ้ากลับ ทำให้ข้อขัดแย้งระหว่างภาคินกับก้องภพมีเพิ่มมากขึ้น ภาคินสารภาพกับปานฟ้าว่าเขาตระเวนดูลิเกเพราะต้องการตามหาแม่ ซึ่งเป็นนางเอกลิเกนามว่าบุษบา แต่ก็ยังไม่เคยพบ ปานฟ้าขอติดตามภาคินไปดูลิเกบ้าง เผื่อว่าจะได้พบกับบุญทิ้งด้วย

ปานเดือนมีอาการทรุดลงหลังจากที่บุญทิ้งถูกลักพาตัวไป ปานดาว ภูวดลและพิม พยายามหาทางทำร้ายปานเดือนทุกวิถีทาง ต่อมาปานฟ้ากับภาคินได้พบกับลิเกคณะแม่ครูกัญญา ทั้งสองจำบุญทิ้งได้ จึงขออุปการะบุญทิ้ง แต่แม่ครูกัญญาจำภาคิน ลูกชายของเธอได้เช่นกัน แม่ครูกัญญาจึงพาบุญทิ้งหนีไปอีก ปานเดือนยิ่งมีอาการทรุดหนัก

บุษบาหรือแม่ครูกัญญาไม่ยอมรับงานการแสดงในที่ชุมชนใหญ่ๆ ทำให้ชาวคณะลิเกลาออกไปอยู่คณะอื่น ต่อมาด้วยความยากจน และความกตัญญู บุญทิ้งแต่งชุดลิเกร้องรำขอเงินคนเดินผ่านไปมาเป็นที่น่าสงสาร ผู้คนบริจาคเงินให้แก่บุญทิ้ง แม้ว่าบุษบาจะขอให้บุญทิ้งเลิกเป็นลิเกแต่บุญทิ้งก็ไม่สนใจ บุษบาพยายามทำงานหลายอย่างเพื่อทดแทนอาชีพลิเก ตุลย์ได้พบกับบุษบาและบุญทิ้ง จึงส่งข่าวให้ปานฟ้ากับภาคินทราบ ระหว่างที่ปานฟ้าพาเติมบุญกับสายอุษามารับตัวบุญทิ้งนั้นเอง ปานดาวก็ให้ก้านฆ่าบุญทิ้งเสีย แต่เติมบุญมาเห็นเข้า ก้านจึงจับตัวเติมบุญไปด้วย โดยเรียกค่าไถ่เป็นเงินมหาศาล

ปานดาวสั่งตำรวจให้จัดการกับก้าน แล้วพาตัวเติมบุญกลับมาให้ได้ พิมโกรธที่ปานดาวหักหลังจึงขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องที่ปานดาวเป็นตัวการที่ทำให้ทินภัทรหายไปและจะเปิดเผยว่าเด็กชายธัญวิทย์ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของปานดาว เพราะภูวดลสามีของปานดาวเป็นหมัน ธัญวิทย์คือลูกชายของพิมซึ่งภูวดลนำมาอุปโลกน์ว่าเป็นลูก ปานดาวตกใจมาก เสนอเงินมหาศาลให้ก้านปล่อยตัวเติมบุญกลับมาได้ และสัญญาว่าธัญวิทย์จะได้รับมรดกคนเดียว แต่เมื่อเติมบุญกลับมาก็ยังไม่ลืมบุญทิ้ง ชายชราป่วยหนัก พร่ำเพ้อแต่บุญทิ้ง

ปานฟ้ากับภาคินจึงต้องติดตามบุญทิ้งมาให้ได้ แม้ว่าก้องภพจะขัดขวางอย่างไรก็ตาม ปานฟ้าปฏิเสธความรักที่ก้องภพมีต่อเธอ ยิ่งทำให้ก้องภพแค้นใจในตัวภาคินมากยิ่งขึ้น

พิมเริ่มมีอำนาจเหนือปานดาว บังคับปานดาวให้ทำทุกอย่างตามที่ตนต้องการ ปานดาวเครียดจัด ยิ่งรู้ว่าภูวดลมีเมียน้อยก็เกิดปากเสียงกันขึ้น ปานดาวลุแก่โทสะฆ่าภูวดลตาย ถูกจับติดคุก พิมหนีไป โดยลักพาตัวธัญวิทย์ไปด้วย ภาคินกับตุลย์และปานฟ้าออกติดตามคนร้าย ซึ่งรู้ในเวลาต่อมาว่าคือก้านสามีของพิมนั่นเอง

ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมก้านตาย พิมแค้นเคืองมากจึงยิงปานฟ้า แต่ภาคินช่วยไว้ได้ และทั้งหมดช่วยเหลือธัญวิทย์กับบุญทิ้งมาได้ บุญทิ้งมาทันดูใจเติมบุญ ตุลย์กับเฟื่องแก้วนำพ่วงมาดูตัวพิม พ่วงยืนยันว่าพิมคือผู้หญิงที่นำเด็กชายบุญทิ้งมาขายให้ตนในราคาถูกๆ เพื่อให้บุญทิ้งเป็นเครื่องมือหากินของตน ทุกคนจึงรู้ว่าบุญทิ้งคือทายาทที่แท้จริง

ความสุขสงบกลับคืนมาอีกครั้ง ปานดาวซึ่งติดคุกอยู่ขอร้องให้ปานฟ้าอย่าบอกความจริงว่าธัญวิทย์ไม่ใช่ลูกของเธอ ปานฟ้ารับปากและสัญญาว่าจะรักธัญวิทย์เหมือนเคย แม้ว่าธัญวิทย์จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลก็ตาม บุญทิ้งกลับมาเป็น “ทินภัทร” ปานฟ้าแต่งงานกับภาคิน ส่วนตุลย์แต่งงานกับเฟื่องแก้ว โดยพิธีแต่งงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีการเลี้ยงอาหารแก่เด็กเร่ร่อนที่มูลนิธิ ก้องภพยอมรับความพ่ายแพ้และมุ่งมั่นจะบริหารงานของครอบครัวต่อไป บุษบามาเป็นแม่บ้านให้แก่มูลนิธิ ภาคินดีใจที่ได้แม่ของตนกลับคืนมา หลังจากที่ตามหามาเป็นเวลานาน

ทินภัทรหรือบุญทิ้ง เด็กชายผู้มีชาติตระกูลสูงส่งต้องระเหเร่ร่อนอย่างยากลำบาก ไม่ต่างจากดาวที่เคยพราวพร่างอยู่กลางฟ้าต้องตกลงมาบนดิน แต่แสงแห่งดาวก็ยังเจิดจ้าดั่งดาวดินที่ไม่มีวันสิ้นแสง ดุจเดียวกับภาคินและปานฟ้า ซึ่งเกิดมาสูงส่งแต่ก็ได้ใช้แสงแห่งดาวให้ความสว่างไสวแก่ผู้ยากไร้ให้ดินได้มีแสงสว่างเช่นเดียวกับดาวบนฟ้านั่นเอง

……………………. อวสาน …………………….

ออกอากาศ
ละครหลังข่าว พุธ – พฤหัสบดี 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

บทประพันธ์
โยษิตา

บทโทรทัศน์
ภาคย์รพี, ไทสคิปท์, เอื้องอรุณ

กำกับการแสดง”
ธีระศักดิ์ พรหมเงิน, เอกภพ ตันหยงมาศกุล

ผู้ผลิต
กันตนา มูฟวี่ทาว์น์ (2002) จำกัด

นักแสดง

ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ รับบทเป็นภาคิน
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข รับบทเป็นปานฟ้า
ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ รับบทเป็นเฟื่องแก้ว
กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ รับบทเป็นตุลย์
ด.ช.ภูผา รัตนรุ่งเรืองชัย รับบทเป็นบุญทิ้ง, ทินภัทร
มัณฑนา หิมะทองคำ รับบทเป็นปานดาว
อัมรินทร์ สิมะโรจน์ รับบทเป็นภูวดล
ธัญสินี พรมสุทธิ์ รับบทเป็นปานเดือน
ปีเตอร์ ธนะสูตระ รับบทเป็นอนิรุทธิ์
ชัชฎาภรณ์ ธันันทา รับบทเป็นพิม
กฤษณ์ ไตรรัตน์ รับบทเป็นก้องภพ
รัชนีกร พันธุ์มณี รับบทเป็นบุษบา, กัญญา
วาสนา พูนผล รับบทเป็นวิมลวรรณ
วันชัย เผ่าวิบูลย์ รับบทเป็นเติมบุญ
นวลปรางค์ ตรีชิต รับบทเป็นสายอุษา
โอลิเวอร์ บีเว่อร์ รับบทเป็นอานนท์
รุ่งระวี บริจินดากุล รับบทเป็นสิริโสภา
ด.ช.พัทธเศรษฐ์ คุณเจริญ รับบทเป็นธัญวิทย์