นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย เล่าให้ทีมข่าวสปริงนิวส์ ฟังถึงเหตุการณ์ในช่วงที่ลูกชายและลูกสะใภ้หายตัวไปเมื่อ 3 ปีก่อน โดยในวันนั้น ทั้งคู่ได้ตัดไม้ขนุนจากบ้านของมารดา แล้วนำเข้าไปเลื่อยในที่ดินของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน จึงน่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ของตัวเอง จนเกิดความไม่พอใจ และเมื่อครอบครัวพยายามออกตามหา ก็ได้ข้อมูลจากพยานว่า ทั้งคู่ถูกตำรวจนำตัวขึ้นรถหายไป ทุกคนในครอบครัวนุ่มจุ้ย จึงเร่งตามหานายสามารถ และ น.ส.อรษา เกิดพันธ์ ภรรยา แต่เมื่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ก็ได้รับการปฏิเสธ

และภายหลังใช้ความพยายามนานกว่า 3 ปี กระทั่งพบรถกระบะของ นายสามารถ จอดทิ้งไว้ในบ้านของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ บิดาของผู้สูญหาย จึงได้โทรศัพท์ ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อีกครั้งแต่ก็ถูกข่มขู่ในยุติการดำเนินการในเรื่องนี้

ด้าน นางเอื้อน เกิดทรัพย์ มารดา ของ น.ส.อรษา ยืนยันว่า ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ทำลายหลักฐาน โดยการใช้รถไถดิน แล้วนำต้นไม้มาปลูกใหม่ พร้อมแสดงความมั่นใจว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน และโดยส่วนตัวก็พร้อมจะให้อภัย ขอเพียงได้ลูกคืนมาไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ โครงกระดูกทั้ง 3 โครง นั้น พล.ต.ต.สมบูรณ์ ตันตระกูล ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอบิดามารดาของผู้สูญหายทั้งสองคนแล้ว แต่เนื่องจากโครงกระดูกที่พบมีลักษณะเก่ามาก จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ พร้อมยืนยัน จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด