บ่อนโชคชัย4

เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าตรวจสอบอาคาร 2 ชั้น ใช้ชื่อเดิมว่า “เลดี้ผับ” เปิดเป็นสถานบันเทิง ตั้งอยู่ที่ ถ.โชคชัย4 ซอย 72 ซอยย่อยสตรีวิท2 แยก 20 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาแฉบ่อนในพื้นที่ตำรวจนครบาลพร้อมทั้งมอบหลักฐาน ให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติข้าตรวจสอบ

พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า อาคารดังกล่าวได้ปิดตัวอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อเปิดเป็นร้านคาราโอเกะและอาบอบนวด โดยบริเวณชั้นที่ 2 ของร้านพบเป็นห้องว่างเปล่าไม่พบวัสดุอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายหรือเกี่ยวข้องกับการพนัน มีเพียงจอทีวี 2 เครื่อง และโต๊ะเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ โดยผู้ดูแลทราบชื่อ น.ส.ลำไย อายุประมาณ 36 ปี ที่รับเป็นผู้ดูแลอาคารดังกล่าว อ้างว่าเช่าต่อมาจากเจ้าของเดิมเพื่อปรับเป็นคาราโอเกะ ส่วนชั้นล่างพบแบ่งเป็นห้องจำนวน 10 ห้องย่อยเพื่อใช้เป็นห้องนวด ซึ่งปิดล็อคทั้งหมดไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้

พล.ต.อ.สถาพร กล่าวอีกว่า จากข้อมูลทราบว่าสถานที่แห่งนี้ได้เปิดมานานหลายเดือน และเพิ่งปิดตัวไปประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ถึงแม้การตรวจสอบจะไม่พบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน แต่พบร่องรอยที่เชื่อว่าเคยเปิดเป็นลักษณะบ่อนการพนันเครือข่าย “เฮียตือ” ซึ่งเป็นข้อูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมา แต่อุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว โดยอาคารนี้สามารถจุคนได้ประมาณ 50-100 คน ทั้งนี้จากการเปรียบเทียบลักษณะห้องกับภาพถ่ายที่ได้มาเป็นหลักฐานพบว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกัน หลังจากนี้จะทำการเรียกเจ้าของอาคารดังกล่าวมาทำการสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือปล่อยให้มีคนมากระทำผิดกฎหมายในอาคารแห่งนี้หรือไม่ รวมทั้งต้องดูพยานแวดล้อมอย่างอื่นประกอบนอกจากตรวจสอบสถานที่จริงเพื่อหาผ็กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้จากข้อมูลที่ได้มาพบว่ามีบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลมีทั้งหมดจำนวน 18 บ่อน ส่วนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มีจำนวน 6 บ่อน ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และจ.ปทุมธานี โดยในพื้นที่นครบาลเฉพาะพื้นที่ บก.น.4 ซึ่งมีอยู่จำนวน 5-6 บ่อน ในพื้นที่ของ 4 สน.ประกอบด้วย สน.โชคชัย สน.ลาดพร้าว สน.วังทองหลาง และสน.หัวหมาก

พล.ต.อ.สถาพร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันทางตำรวจได้เข้าตรวจสอบสถานที่ทั้ง 21 แห่งแล้วแต่ไม่พบอุปกรณ์ที่เกี่ยวพนันเลย แต่เข้าข่ายว่ามีการเปิดให้เล่นการพนัน ซึ่งบางแห่งไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากแต่ศาลไม่อนุมัติหมายค้นโดยให้เหตุผลว่ายังไม่น่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น” พล.ต.อ.สถาพร กล่าว อย่างไรก็ตามจะเรียก ผกก.ทั้ง 4 สน.มาประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก่อนจะสรุปผลเพื่อรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. รับทราบภายใน 7 วัน หากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดที่มีการปล่อยปะละเลย นายตำรวจตั้งแต่ระดับ ผบก.-ผกก. ในท้องที่นั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะมีการพิจารณาโทษทางปกครองด้วยการสำรองราชการ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สถาพร ยังเข้าตรวจอาคารพาณิชย์เลขที่ 118/27-28ซอยรามคำแหง24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น ชั้นที่ 1-2 อยู่ระหว่างการปรับปรุงสียังไม่แห้ง โดยชั้นที่ 3 แบ่งเป็นห้องจำนวนหลายห้องมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้วางอยู่ 1 ตัว โดยผู้เช่าตึกดังกล่าวอ้างว่า เคยเปิดเป็นร้านอาหารจีน เจ้าของได้มาเช่าเพื่อเปิดเป็นร้านอินเตอร์เน็ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพล.ต.อ.สถาพร เข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวเนื่องจากมีข้อมูลว่าอาคารแห่งนี้เปิดเป็นบ่อนจริงและเพิ่งมีการขนย้ายอุปกรณ์เล่นการพนันออกไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทางชุดของจเรตำรวจที่เข้าตรวจสอบได้สอบทางกับ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.หัวหมากได้ยืนยันว่าอาคารดังกล่าวไม่สามารถเปิดเป็นบ่อนได้อย่างแน่นอนเนื่องจากมีสายตรวจมาดูตลอด และเป็นพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ส่งชุดสืบสวนมาตรวจสอบก็พบว่ามีการย้ายอุปกรณ์การก่อสร้างมาที่อาคารนี้ ไม่ใช่การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการพนันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ทางตำรวจได้เชิญตัวนายชลธี วัชระเรืองสันติ อายุ 33 ปี ที่รับเป็นผู้เช่าอาคารดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.หัวหมาก โดยจากการสอบสวนนายชลธีได้ให้การว่า ได้ทำการเช่าอาคารดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มทำการปรับปรุงตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เพื่อทำเป็นร้านอินเตอร์เน็ต โดยวันนี้ที่ชุดของจเรได้เข้ามาตรวจสอบ ตนก็เข้ามาที่ร้านเพื่อคุมงานการติดตั้งกระจกพอดี และยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องที่อาคารนี้เคยเปิดเป็นบ่อนแต่อย่างใด เพราะเพิ่งมาเช่าเปิดกิจการส่วนตัวเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวถึงผลการตรวจสอบบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลทั้ง 88 สน.หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นได้รับรายงานจากทั้ง 88 สน. เรียบร้อยแล้ว และผลการตรวจสอบได้ส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาแล้ว ส่วนผลการตรวจสอบบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลจากที่ได้รับรายงานไม่พบว่ามีการเปิดบ่อน แต่ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ เพื่อทำการตรวจสอบว่าแต่ละท้องที่มีการปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันจริงหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่พบบ่อนตามรายงานที่ได้รับ รวมถึงการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับบ่อนพนันด้วย ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางเราจะดำเนินการทันทีเช่นกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากรายงานยืนยันไม่พบบ่อนพนันในแต่ละท้องที่ หากหลังจากนี้ตรวจสอบพบจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ต้องจับกุมและดำเนินการทันที หากพบว่าตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องต้องพิจารณาโทษขั้นเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม นโยบายของ บช.น. มีความชัดเจนอยู่แล้วเรื่องการปราบปรามจับกุมบ่อนพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ละเลยอย่างเด็ดขาด อย่างที่เคยบอกไปแล้วนั้น ทางเราตรวจสอบแล้วไม่พบ เพราะเกิดความลำบากในการทำงาน เนื่องจากมีการให้ข้อมูลตามข่าวที่ออกมาทำให้บ่อนแห่งต่างๆ ที่เปิดเล่นไหวตัวทัน ตามจับยาก แต่ผมเชื่อว่าจากนี้ไปคงไม่มีการเล่นพนันแน่นอน เพราะตำรวจได้จับตาดูไว้อยู่แล้ว