นางวิภากร ศุขพิมาย

ยังไม่จบง่ายๆ กับข่าวภาคต่อที่มีให้ติดตามกันแทบทุกวันสำหรับกรณีฉาว เรื่องราวอีนุงตุงนังของร็อกเกอร์ชื่อดัง ‘เสก โลโซ’ หรือ เสกสรร ศุขพิมาย หลังจากโดนมรสุมชีวิตกับข่าวเรื่องยาเสพติด ปัญหาครอบครัวเรื่องการหย่าร้าง จนตัวเองต้องเข้ารับการบำบัดที่สถาบันธัญญารักษ์ ซึ่งระหว่างที่ร็อกเกอร์หนุ่มรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็กลับมีกระแสข่าวว่าเสกได้หนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ม.ค. 55 ที่ผ่านมา ซึ่งทางทนายความส่วนตัวของเสกพร้อมทั้งหงส์น้องสาวของเสกโลโซได้ออกมายืนยันผ่านการแถลงข่าวว่า เสกไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาลอย่างที่เป็นข่าว พร้อมกับชี้แจงเรื่องทรัพย์สินที่ทางเสกได้มอบอำนาจไว้ให้

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.55 มีความเคลื่อนไหวจากทางฟากอดีตภรรยาของเสกคือนางวิภากร ศุขพิมาย โดยเจ้าตัวได้จัดแถลงข่าวที่บ้านย่านวัชรพล ซึ่งเป็นบ้านที่เสกใช้อยู่ก่อนเข้ารับการบำบัด ซึ่งปัจจุบันกานต์ได้เข้ามาพักอาศัยในบ้านหลังนี้พร้อมกับลูกๆ แล้ว โดยเนื้อหาของการแถลงข่าวครั้งนี้ก็เพื่อจะยืนยันว่า ‘ เสก’ ได้ออกมาจากโรงพยาบาลธัญญารักษ์จริง ตามที่เธอได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีหลักฐานเป็นสมุดบันทึกการเข้าออกหมู่บ้านมาเปิดเผย นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงถึงหนังสือฉบับของเธอที่อดีตสามี ‘เสก’ เป็นคนให้เธอร่างขึ้นเพื่อยกเลิก หนังสือมอบอำนาจฉบับที่ทนายความยืนยันก่อนหน้านี้ จะมีใจความอย่างไร เธอมีอะไรจะกล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังบ้าง ไปฟังจากปากของเธอแบบคำต่อคำ

‘ค่ะ สวัสดีค่ะพี่ๆ นักข่าวที่ได้มาฟังดิฉันแถลงข่าวในวันนี้ ก็คือที่มาพูดในวันนี้ก็เพราะอยากให้ประชาชนรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นดิฉันไม่เคยโกหกอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่เสกเสพยา โพสต์ภาพไปซึ่งเขาก็ออกมายอมรับแต่โดยดี โดยในวันนี้เราจะมาพูดเรื่องที่เสกกลับเข้ามาที่บ้านเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555 ต้องบอกว่าเขาไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาล แต่ว่าเขามีปัญหาบางอย่างที่เขาต้องกลับมาเคลียร์ คือเขาคิดถึงน้องเสือ น้องกวาง ลอนดอน ซึ่งเป็นลูกของเขาอะน่ะค่ะ และเขาก็อยากจะมาเคลียร์ปัญหาการเงินของเขา ซึ่งปัญหาหลักในการบำบัดของพี่เสกตอนนี้ที่ทำให้การบำบัดไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเขากังวลเรื่องทรัพย์สินของเขา ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ใคร ก่อนที่เขาจะกลับมาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555 เขาโทร.มาหาดิฉันประมาณ 2-3 วันติดกันโดยที่ให้หมอโทร.มาแจ้งให้โทร.กลับไปที่ตึก แล้วก็ใช้โทรศัพท์ของคนที่เฝ้าเขาโทร.มาเรื่อยๆ โทร.มาปรึกษากรณีที่ว่า เรื่องเงิน เรื่องหนังสือบันทึกที่เขามอบอำนาจให้ทนายและน้องเขาดูแลทั้งหมด เพราะเขาจะปรึกษาว่าจะทำยังไงกับหนังสือเล่มนี้ แล้วก็เงินทั้งหมดของเขาอยู่ที่ใคร’

‘อย่างเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่เขากลับมา เขาก็ได้โทร.เรียกทางญาติเขาให้เอากระเป๋ามาคืนเขา ซึ่งทางญาติเขาก็แห่กันเอากระเป๋ามาคืนเขา สักพักน่าจะประมาณ 10 โมงทางรพ. ก็มาเอาเขากลับไป ซึ่งกระเป๋าใบที่เขาขอคืนมาจะอยู่ในห้องนอนของเขา ทางแม่บ้านที่ดูแลบ้านก็ได้ล็อกห้องเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครเข้า เขาก็พยายามจะงัดประตูห้องพี่เข้าไป แต่ว่าน้องสาวเขาแอบเก็บกุญแจห้องนอนพี่ไว้ดอกนึง ก็เอาไปไข ค้นเอากระเป๋าของพี่เสกกลับไปอีกเหมือนเดิม ก็ตั้งแต่บัดนั้นพี่ก็ยังไม่เจอพี่เสกเลย เพราะว่าเขาไม่ให้เยี่ยม ซึ่งตอนที่พี่ไปเยี่ยมพี่เสก ล่าสุดคือวันที่ 5 เนี่ยก็ไม่เคยพูดอะไรที่จะทำให้พี่เสกกังวลเลย เวลาไปเจอพี่เสกทุกครั้งเขาจะอารมณ์ดีเล่านั่นเล่านี่ให้ฟังตลอดน่ะค่ะ’

นอกจากนี้กานต์ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่หงส์ น้องสาวของเสก กล่าวหาว่าตนนั้นไม่ทำมาหากิน เจ้าตัวได้แจงว่า ‘เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเขาเอาสมองส่วนไหนคิด เพราะว่าเราอยู่กับเสกมาสิบกว่าปี ก็คือช่วยเสกทำงานทุกอย่างยกเว้นขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีแล้วก็แต่งเพลง นอกนั้นกานต์ทำหมดทุกเรื่องใครๆ เขาก็ทราบดีแล้วก็ช่วยกันเก็บเงินจนกระทั่งมีทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นพอวันที่ 6 หลังจากที่เสกกลับโรงพยาบาลไปแล้ว กานต์ ก็ได้โทร.ไปหาทนายคือคุณอุดมบอกว่า กานต์ขอตรวจสอบทรัพย์สินของเสกว่าทำไมเสกถึงได้กังวัลเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เพราะตั้งแต่เขาไปบำบัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 54 เขาก็เอากระเป๋าไปตั้งแต่วันนั้นเลย ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ก็เคยโทร.ไปทวงเขาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่าในสิทธิ์ของคนเป็นแม่ขอแค่ดู แต่เขาก็ไม่ยอม วันที่ 6 ม.ค. ก็โทร.ไปอีก เขาก็บอกกับเราว่า ให้ไม่ได้ น้องกานต์อยากทำอะไร ก็ทำไปเถอะ เขาบอกอย่างนี้ ฉันเองก็ไม่ได้ทำอะไร’

ก็เลยโพสต์ข้อความออกมา เพราะปัญหาที่คุณหมอบอกเองว่าปัญหาที่แท้จริงของการรักษาคือการที่เขากังวลเรื่องทรัพย์สิน แล้วอีกอย่างหนึ่งที่อยากให้ทางญาติเขาทราบด้วยว่าลูกทั้ง 3 คนนี้ เป็นคนในครอบครัวเขาหรือเปล่า อยากให้เขาคิดตรึกตรองให้ดีว่านี่ใช่ครอบครัวเขาไหมหรือว่าเฉพาะคนชื่ออ้อม

‘สิ่งที่อยากจะให้ดูอีกอย่างในวันนี้คือ จดหมายที่พี่เสกได้เซ็นไว้ ยกเลิกเมื่อวันที่ 5 วันนั้นเขาเรียกพี่ให้เข้าไปหาเพราะเขากังวัลกับสัญญาที่เขามอบอำนาจในการดูแลทรัพย์สินของเขาทั้งหมดให้น้องเขาและทนาย (เขารู้ว่ามีปัญหาเรื่องนี้) ใช่เขารู้ตลอดแล้วหมอเป็นคนโทร.บอกพี่ว่าปัญหาของเขาในการรักษาคือจุดนี้ พี่ก็เลยเข้าไปเมื่อวันที่ 5 ก็คือไปคุยกับเขาเขาก็บอกว่าทำยังไงก็ได้ที่จะฉีกสัญญาฉบับนี้ พี่บอกว่าสัญญาฉบับนี้ฉีกไม่ได้เพราะมันเป็นแค่ก๊อปปี้ เขาก็ถามเราว่าอย่างงั้นเขาจะทำยังไง เขาก็เลยให้เราร่างจดหมายขึ้นมาใหม่ เป็นจดหมายยกเลิกหนังสือเล่มนี้ โดยที่เขาจะเป็นคนที่จะดูแลทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับใคร’

วันนั้นพี่เสกมีอาการยังไงบ้าง?
‘เมื่อวันที่ 5 ที่พี่เข้าไป อารมณ์ดีค่ะ คือไม่ว่าจะเขียนฉบับนี้หรือฉบับนี้ เขาก็ยังมีฤทธิ์ของยาอยู่ ฉบับนี้คือฤทธิ์ของยาไอซ์แน่นอน แต่ฉบับนี้อาจจะเป็นฤทธิ์ของยาที่หมอให้ แต่วันนั้นเขาอารมณ์ดีค่ะ พี่ไปตั้งแต่น่าจะประมาณ 5 โมงถึง 2 ทุ่มครึ่งก็กลับมา พี่ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพราะของทุกอย่างมันคือของพี่เสกทั้งหมด ส่วนในเรื่องที่จะฟ้องเรื่องสิ้นสมรสคือพี่ต้องรอให้พี่เสกหายก่อน ซึ่งพี่กับพี่เสกก็คุยก็เคลียร์กันด้วยดี พี่ไม่มีทางฟ้องเขาหรอกเพราะพี่คิดว่าเขาจะเคลียร์ให้พี่ตามสัญญาหย่าอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างน้องทั้ง 3 เขาก็มีสิทธิ์ จะมาบอก 2 คนนี้จะมีสิทธิ์ในทรัพย์สินของพี่เสกได้ยังไง ลายมือในหนังสือฉบับล่าสุดเป็นลายมือของพี่ แล้วเขาก็เป็นคนเซ็น เขาบอกพี่ว่าให้ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้อันนี้เป็นโมฆะ’

แสดงว่าวันนั้นที่เขาจะมาคือเขาต้องการ?
‘เคลียร์เรื่องกระเป๋าสะพายที่เก็บบุ๊กแบงก์ บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม ตราประทับ สมุดเช็คทุกอย่าง แล้วกุญแจรถปอร์เช่ของเขาก็อยู่ในนั้น ซึ่งเสกเขาจะหวงเขาจะติดตัวของเขาอยู่ตลอด ต้องบอกว่าจริงแล้วพี่เสกไม่ได้ถึงขั้นเบลอถึงขนาดไม่ยอมไม่เอาบัญชีไปให้เขาดู เขาเรียกเขาขอดูทำไมไม่เอาไปให้เขาดู ทั้งๆ ที่ในใจของเสกเขาครุ่นคิดแต่ว่า เงินเขาอยู่ที่ไหนเขาคิดถึงลูก เขาคิดถึงว่าเงินเขาอยู่ที่ไหน มียอดเท่าไหร่ เท่านั้นเท่านี้เขาบอกพี่ว่าให้เคลียร์ให้เขาหน่อย แต่พี่จะไปเคลียร์ยังไงเพราะว่าทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ที่พี่ แล้วพี่โทร.ไปถามทนายเขาบอกว่าเขาให้ไม่ได้แล้วพี่จะไปเคลียร์ยังไง’

เขาพูดถึงจดหมายเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ยังไง เขาโดนหลอกให้เซ็นหรือว่าอะไร?
‘เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเขาเซ็นและอีกครั้งที่เขาพูดบอกว่าที่เขาให้เซ็นเนี่ย เขาให้ดูแค่วันที่ 10 ธันวาคมวันเดียว แล้วเขาก็ถามพี่ว่าอย่างนี้มันหมายความว่าเขาเอาทรัพย์สินของเราไปได้ทั้งหมดเหรอ เขาก็เลยบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้ทำจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา’

มีใครเป็นพยานไหมในวันที่ทำจดหมาย?
‘อ๋อไม่ค่ะ พี่อยู่กับพี่เสกกับน้อง 3 คน มีหมอเดินเข้าออก พยาบาลเข้าออก ส่วนหมอคงไม่ทราบค่ะ เพราะว่าถ้าเกิดเขาไม่เอาฉบับเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ออกมา พี่ก็ไม่เอาฉบับนี้ออกมาเหมือนกัน ออกมาเพื่อจะให้พี่เสกแย้งกับฉบับเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. คือทั้งหมดคือผลประโยชน์ของพี่เสก ไม่ใช่ของพี่’

มีหลักฐานการมาที่บ้านของ ‘เสก’ ไหม?
‘เขาโทร.หาพี่ น่าจะวันที่ 2, 3, 4 ติดกัน 3 วัน เรื่องเงินเขาอยู่ที่ไหน ให้ไปรับเขากลับบ้านหน่อย พี่ก็เลยเป็นคนโทร.ไปบอกหมอว่าเสกจะออกมานะเขาพูดอย่างนี้นะ แล้วหมอเขาคงไปจัดการ แต่เช้าวันที่ 6 ม.ค.เขาคงขี่จักรยานมาถึงหน้าโรงพยาบาลแลวคงนั่งแท็กซี่ต่อมา ในวันนั้นน้องเสือน้องกวางเขารู้ว่าพ่อเขามา แล้วก็ป้อมยามมีบันทึกการเข้าออกของรถที่มาส่งพี่เสกแล้วรถของหงส์ ของพี่แสน แล้วก็รถตู้ที่มารับพี่เสกไป (ระหว่างที่แถลงข่าวกานต์ได้โชว์หลักฐานเป็นสมุดบันทึกการเข้าออกของรถเมื่อวันที่เสกนั่งแท็กซี่เข้ามา โดยลงเวลาไว้ที่ 7 โมงครึ่ง ต่อจากนั้นตามมาด้วยรถของ ฑยุตา ศุขพิมาย รถของหงส์ ในเวลา 08.20 น. และตามด้วยรถของแสน เมื่อ 08.47 น.) ที่พวกเขาเดินทางมาเพราะเอากระเป๋าสะพายมาคืนพี่เสก เพราะพี่เสกเขาร้องขอ แล้วพี่เสกเขาก็เก็บไว้ในห้องนอน แล้วหลังจากนั้นหมอก็มาเอาตัวพี่เสกกลับไป’

เมื่อวานนี้ทางทนายได้แถลงว่า จดหมายมอบอำนาจฉบับที่ให้น้องสาวมีสิทธิ์ดูแลทรัพย์สินได้ให้กับทางผู้ใหญ่แกรมมี่ดูด้วย? ‘อ๋อวันที่ไปพบแกรมมี่พี่ก็ไปพบกับเขาด้วย เพราะเขาเป็นคนขอร้องให้พี่ไปเองว่าพี่ควรจะไปด้วย เขาไม่ได้ให้ผู้ใหญ่ทางแกรมมี่เป็นพยาน เขาแค่เอาหนังสือมาแจกให้ครบทุกคนให้เห็นว่าเขามีสิทธิ์อันนี้เต็มรูปแบบ พี่ก็เลยเอาจดหมายอันนี้มาแย้งว่าเขาไม่มีสิทธิ์แล้ว ‘เสก’ มีสิทธิ์คนเดียว ไม่เกี่ยวกับกานต์ด้วย ส่วนเรื่องกระเป๋าไม่ได้สังเกตว่าวันนั้นเขาเอาไปหรือเปล่า’

ได้มีการปรึกษาทนายไหม เพราะเหมือนต่างคนต่างก็มีจดหมายและก็มีพยานซึ่งเป็นคนของตัวเองทั้งคู่? ‘พี่ยังไม่ได้ปรึกษาทนายความอะไรแต่อยากจะนำเสนอออกสู่ประชาชนว่าจริงพี่เสกไม่ได้เป็นบ้า หรือไม่ได้ตาย ที่จะมามอบทรัพย์สินให้ใครดูแล เหตุผลอะไรที่เขาจะมามอบทรัพย์สินให้คนอื่นดูแล ส่วนตัวพี่เสกเองเป็นคนที่เซ็นเรื่องทรัพย์สินยากมาก เขาเป็นคนที่รอบคอบมาก ก็ยังงงว่าเขาเซ็นจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาได้ยังไง ไม่ใช่วิสัยของเสกเขา’

อาการของเสกเป็นยังไงบ้าง?
‘ที่เห็นล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 55 เขาก็ไม่ได้ดีขึ้นมาก แต่เจอเขาทีไรเขาก็ยังร่าเริง ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดอะไร แต่พอวันที่ 8 ม.ค. 55 เขาโทร.มาหาพี่หลายครั้งบอกให้กานต์ไปรับ ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปแต่โทร.หาคุณหมอกลัวว่าเขาจะออกมาอีก’

เมื่อวันที่ 5 ที่เสกกลับมามีใครอยู่บ้านบ้าง?
เสือ (ลูกชายเสก) ตอบ : ‘ไม่ได้เจอครับ มีแค่ได้ยินเสียง เขาก็เล่นเปียโนร้องเพลง ที่ไม่ได้วิ่งออกมาดูคุณพ่อ เพราะคนวันนั้นก็เยอะ และไม่อยากยุ่งอะไรมากก็เป็นห่วงคุณพ่อครับ แต่ก็ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวเท่ไหร่ ก็ยอมรับครับว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในชีวิต’

กวาง : ‘เห็นครับ แต่ไม่ได้คุย ครับก็เป็นห่วงคุณพ่อเหมือนกัน’

กานต์ : ‘ก็อย่างที่บอกค่ะ กานต์มีหลักฐานที่ป้อมยาม ถึงแม้คนที่อยู่ส่วนใหญ่จะเป็นคนของพี่ซึ่งมันก็จริงนะแต่ว่าพี่ก็พูดเเรื่องจริงตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว พี่ไม่เคยโกหก ไม่เคยสร้างเรื่องอยู่แล้ว’

ทำไมไม่มีการพูดคุยกับทางโน้น?
‘ตอนแรกก็มีการคุยกันดีว่าจะพาเสกเข้าบำบัดแล้วเสกก็ยินยอมที่จะไปบำบัดอยู่แล้วแต่หลังจากที่เสกเข้าบำบัดเนี่ยเขาก็จะกันเราเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน’

พร้อมจะเคลียร์ไหมถ้าเกิดมีการจะคุยกัน?
‘ถ้าเขาอยากจะมาเคลียร์ ก็มาเคลียร์ได้ค่ะ พร้อมเคลียร์ค่ะ’

ที่บอกว่ามีเงินหายเราได้เช็กอะไรยังไงหรือยัง?
‘พี่เสกเป็นคนบอกว่ามันมียอดที่เขาเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาท แล้วก็ 7 แสนบาท แล้วก็ 2 แสนบาท ซึ่งเขาไม่รู้ว่ายอดเหล่านี้เอาไปจ่ายค่าอะไร เขาก็เลยอยากจะทราบ พี่ก็ไม่รู้จะเคลียร์ให้ได้ยังไงเพราะสมุดบุ๊กแบงก์ก็ไม่ได้อยู่กับพี่ บัญชีรายรับรายจ่ายพี่ก็ไม่ได้ทำอยู่แล้ว ยอดนี้เขาบอกกับกานต์ว่าตอนก่อนเข้าบำบัด’

ทางโน้นเขาก็มีประเด็นคล้ายๆ กันเรื่องที่เขาอ้างว่าเขาไปเช็กสเตตเมนต์ของพี่เสกก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องมันมีลายเซ็นที่ไม่เหมือนกัน? ‘อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าพี่ไม่ได้ถือสมุดเช็กบุ๊กแบงก์ของเขามา ตั้งแต่ที่หย่ากับเขาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปีที่แล้ว สมุดเช็คก็ไม่ได้อยู่กับพี่ สมุดบัญชีก็ไม่ได้อยู่กับพี่ เพราะพี่เสกเขาจะเป็นคนดูแลของเขาเอง’

จากนี้ไปจะทำยังไงต่อไป?
‘พี่หย่ากับเขาไปแล้วจะเคลียร์อะไรต้องรอให้พี่เสกหายก่อน’

ทางนั้นเขาขู่ว่าจะฟ้องถ้าเรายังไม่หยุดแฉ?
‘ก็ให้เขาฟ้องไปค่ะ พี่ก็สู้คดีไป เพราะว่าพี่ไม่ได้พูดอะไรผิดหรือเสียหายหรือว่าไม่จริง’

ถ้ามีความในใจก็ยังเดินหน้าระบายผ่านทางเฟซบุ๊กเหมือนเดิม?
‘ใช่ค่ะ’

ความสัมพันธ์กับทางบ้านของครอบครัวของเสกก่อนหน้านี้ปรกติหรือเปล่า?
‘ปกติค่ะ เราก็คุยกันแล้วก่อนที่จะเข้ามาบำบัด พี่เขามาเยี่ยมพี่เสกก็คุยกันทุกวันแต่พอหลังบำบัดกลับมาตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกันอันนี้พี่ก็ไม่รู้’

เป็นเพราะข้อความในเฟซบุ๊กหรือเปล่าที่เราออกมาแฉในด้านไม่ดีของ ‘เสก’ ด้านเดียวแล้วทำให้คนโจมตีพี่เสกว่าใจร้ายมั่งอะไรมั่ง? ‘ก็ใช่ค่ะเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่พี่แฉออกไปมันอาจทำให้เขาโกรธเรา แต่หลังจากนั้นที่พี่เสกแถลงยอมรับอะไรแล้วพี่ก็มีการเข้ามาเยี่ยมพี่เสกในช่วงวันที่ 22 ก็ได้คุยกับญาติพี่น้องเขาว่าต้องดูแลเสกก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ก็คือเคลียร์กันแล้วไม่มีอะไร’

เรื่องขโมยของเราคิดว่าใคร?
‘ตอนนั้นมันมีคนหลายคนที่เข้ามาพี่ก็ไม่รู้ว่าใครหยิบไปค่ะ (อะไรหาย) กระเป๋าค่ะ’

‘เรื่องเงิน 7 แสน 2 ล้านอะไรนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เสกเขาคิดไปเองหรือเปล่า พี่ก็เลยต้องขอเช็กไปที่ทนาย ซึ่งต่อมาเขาก็ไม่ให้เราดู ซึ่งเพราะว่าเราไม่ต้องการเอากระเป๋าหรือสมุดบัญชีเขามาเก็บ แต่แค่จะเอามาดูเฉยๆ ว่ามันหายไปจริงอย่างี่เขาว่าไหม’

‘ก็ต้องยอมรับว่าเป็นห่วงอาการเขา และก็เป็นห่วงเรื่องทรัพย์สินที่เขากังวลด้วยประกอบกับที่เราคลางแคลงใจด้วยว่าทำไมไม่ให้เราดู เพราะถ้าเกิดเอาเรื่องของทายาทในความชอบธรรมน้องเสือน้องกวางก็มีสิทธิ์ที่จะต้องเห็นได้’

อยากฝากอะไรไปถึงคนที่ให้กำลังใจเราหรือชี้แจงให้คนอื่นที่อาจะจะกำลังสงสัยหรือเข้าใจผิดว่าสุดท้ายเป็นแค่เรื่องเงิน? ‘พี่ไม่ได้มาทะเลาะเรื่องเงินทอง ก่อนหน้านี้กานต์เองก็เปิดประเด็นไปชัดเจนอยู่แล้วว่ารอให้เสกหายก่อนเรื่องระหว่างพี่กับพี่เสกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเลี้ยงดูหรือสินสมรสทุกอย่างก็คือ รอพี่เสกหายก่อนน่าจะเคลียร์กันได้ไม่ถึงขั้นต้องฟ้องหรอกค่ะ แล้วที่มาแถลงวันนี้ก็เพื่อจะรักษาผลประโยชน์ให้พี่เสกว่า เสกเขากังวัลแบบนี้แล้วเราควรจะออกมาไหม เราก็ควรจะเป็นคนออกมาพูด ถึงขั้นเขาออกมาจากโรงพยาบาลวันที่ 6 เพราะเหตุนี้ ส่วนเรื่องที่คุณหมอเป็นคนนำคลิปออกมาเผยแพร่กานต์ไม่เห็นด้วย ขนาดลูกพี่พี่เองยังไม่พาไปเพราะเราจะเห็นคุณเสกในสภาพนั้น ซึ่งไม่น่าดู’

อยากฝากอะไร?
‘อยากฝากให้พวกเขาคำนึงถึงพี่เสกหน่อยว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร รับความจริงหน่อยว่าเขากังวลเกี่ยวกับลูก เขากังวัลเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขา ได้โปรดไปให้เขาเช็กด้วย ได้โปรดไปให้เขาดู เขาไม่ได้เสียสติ ทุกอย่างเขาจำได้เป๊ะๆ หมดทุกอย่างวันที่พี่ไปคุยเขาจำทุกอย่างได้เขาไม่ได้เบลอไม่ได้เสียสติ’

เคยแอบร้องไห้ไหม?
‘บ่อยค่ะ บ่อย ก็เสียใจเรื่องครอบครัว สงสารลูก ทำไมครอบครัวเราต้องเป็นอย่างนี้’

อย่างไรก็ตามกานต์ยังได้เผยกับผู้สื่อข่าวในช่วงท้ายว่า ที่ตนอกมาในวันนี้ก็เพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ของเสก ในส่วนทรัพย์สินเรื่องการหย่าตนจะเคลียร์กับเสกก็ต่อเมื่อเสกหายดีแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพูดคุยกันนอกรอบ อดีตภรรยาร็อกเกอร์ชื่อดังยังได้เผยถึงจำนวนเงิน หรือทรัพย์สมบัติที่ เสก โลโซ นั้นมีอยู่ว่า ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้รวมทรัพย์สินในส่วนของรถยนต์ บ้านที่ดิน