news

 

ปล่อยให้ข่าวเงียบมาสักพักหนึ่ง สำหรับกรณีที่มีนางแบบสาวเซ็กซี่ “ตาล สรัญญา” หรือ “ตาล ลีโอเกิร์ล” ออกมาแฉความสัมพันธ์ว่าเคยคบกับพระเอกหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” แต่สุดท้ายก็โดนเท

ล่าสุด ชาคริต ได้ออกมาเปิดใจถึงเริ่องดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า รู้จักกันจริง เพราะเจอกันตามงานแล้วฝ่ายหญิงเข้ามาให้กำลังใจ เป็นการคุยกันในระยะสั้นๆ เพียงเดือนกว่าเท่านั้น แต่เป็นการคุยแบบถามสารทุกข์สุกดิบ ปรึกษาปัญหา ไม่ได้คุยแบบให้ความหวังอะไร พร้อมบอกขออโหสิกรรมให้ถ้าคนมองว่าอีกฝ่ายเกาะกระแสตัวเอง

ก่อนหน้านี้มีข่าวผู้หญิงชื่อ ตาล ออกมาเปิดใจว่าสนิทกับเรา ?
“ไม่มีอะไรคอมเม้นต์ครับ ไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต ถามว่ารู้จักกันไหม จริงๆ ก็เจอกันตามงาน เขามาให้กำลังใจ ผมก็ขอบคุณครับ เขาบอกว่าเขาเข้าใจเราเพราะเพิ่งเจอปัญหาเหมือนเรามา ซึ่งก็คุยกันปกติ ไปกินข้าวที่ร้านก็ไม่มีอะไร รู้จักกัน ก็ถ่ายรูปกัน แค่นั้น เวลาเขาคุยเล่นมา ผมก็คุยเล่นแค่นั้นเอง”

เขาเล่าเป็นเรื่องเป็นราวเลยว่ารู้จักกับเรา คุยกันเป็นแฟน ?
“ไม่รู้จะคิดอะไรดีกว่า ก็งงตั้งแต่แรก เราก็ไม่ได้ติดต่อกัน สุดท้ายเขาก็มาขอโทษเรา เราก็โอเค ผมก็ไม่ทราบว่าน้องเขามีเจตนาอะไรเหมือนกัน ปล่อยไปเถอะครับมันผ่านไปแล้ว”

เคยมีเหตุการณ์เหมือนเราไปให้ความหวังเขาไหม ?
“ไม่นะ ถ้างั้นเวลาผมถ่ายรูปกับใคร ทุกคนก็ต้องเป็นเมียผมเหรอ (หัวเราะ) บางคนถ่ายรูปนั่งตัก กอดกัน กับแฟนคลับทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็เป็นเรื่องปกติ เราอยู่ตรงนี้เป็นเหมือนดาบสองคน ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้กับตัวเอง เราไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่ถ้าทำให้ชีวิตใครดีขึ้นก็โอเค เราก็ไม่ได้เสียหายอะไร”

มีคนมองว่าเขามาเกาะกระแสเรา ?
“ไม่เป็นไร ก็อโหสิกรรมให้”

รู้จักกับเขาผ่านเพื่อนหรือเปล่า ?
“ไม่ครับ เขามาบอกว่าเพื่อนของเขาจะเปิดคลินิก ผมก็บอกให้ติดต่อผ่านผู้จัดการของผม เลยมีการแลกไลน์กันแค่นั้นเอง หลังจากนั้นเขาก็โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ ให้คำปรึกษากัน คนเราเวลาใครหวังดีมา เราก็หวังดีกลับ”

หลังมีข่าวเขาขอโทษแล้ว ?
“ไม่ เราไม่ได้ติดต่อกันอีก มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อปีที่แล้ว แล้วน้องเขาก็ไปโพสต์รูปในเฟสบุ๊ค โดยที่ผมก็งงๆ อยู่ ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องเขาทำอะไร เราก็ถามเขาว่าทำแบบนี้คืออะไร เขาก็งง เราก็เลยงงๆ ด้วย เราก็หลอนๆ เลยถอยออกมา โดยเราเองก็ไม่ได้อยากไปให้ความหวัง ก็เห็นเขาเหมือนเพื่อนเหมือนน้องมากกว่า ตอนนี้เราก็ไม่ได้มีเวลา”

ระยะเวลาที่คุยนานแค่ไหน ?
“เดือนกว่ามั้ง”

เขามีรูปที่เราถ่ายเซลฟี่ตัวเองส่งไปให้เขาในไลน์ เหมือนสนิทกันมาก ?
“เขาถามว่าทำอะไร ผมก็บอกว่าอยู่ที่ทำงานครับ เวลาผมคุยกับเพื่อนก็คุยแบบนี้”

คนค่อนข้างจับตามองเรื่องสาวคนใหม่ของเรา ?
“ตอนนี้ผมนิ่งเชียว ข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลอะไรกับผมเลย งงมากกว่า รู้สึกว่า เอาอีกแล้วเหรอ จะมีผู้หวังดีโทรเข้ามาแล้วจะไปกระทบความรู้สึกของแม่ผมหรือเปล่า ผมกลัวแม่เครียดก็ต้องปล่อยไปดีกว่า ต่างคนต่างอยู่เถอะ เราชัดเจนกับตัวเองว่าไม่เคยไปให้ความหวังใคร เวลาที่ถูกถามว่ามีคนคุยไหม ผมก็บอกตลอดว่ามีคนพยายามจะเข้ามาคุย มาเป็นเพื่อน แต่พอมันไม่ใช่ก็หายกันไปเอง ผมตอบแบบนี้ทุกครั้ง ก็คงเป็นแบบนี้แหละครับ”

เวลามีคนจะเข้ามาขอไลน์เพื่อคุยธุรกิจแบบนี้อีกจะให้ไหม ?
“ก็คงต้องดูอีกนิดนึง จากเรื่องงานมันกลายไปเป็นเรื่องอื่น มันผ่านไป 7-8 เดือนแล้ว อยู่ๆ เขาก็ออกมา ก็ถือเป็นอุทาหรณ์ เราก็อยู่ของเราดีๆ มีคนเข้ามาให้กำลังใจ แต่พอไม่ได้ดั่งใจ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแล้วสุดท้ายจะให้เราทำตัวยังไง ถ้าไปทำอะไรให้ใครเข้าใจผิดก็ขอโทษไว้ด้วยแล้วกัน”

ช่วงที่เขาเข้ามาเราโสดใช่ไหม ?
“ครับ ตั้งแต่เลิกกับเมีย ผมโสดมาตลอด”

หลังจากนี้จะเจอกันได้ไหม ?
“ก็ไม่รู้จะเจอกันทำไมอีก ไม่มีเหตุผลที่ต้องเจอ เพราะไม่ได้อยู่ในทิศทางเดียวกัน ผมก็ทำแต่งาน ไม่มีเวลาอยู่แล้ว ขนาดเพื่อนยังไม่เจอเลย นอกจากจะไปเจอที่ร้านวันที่ผมเข้าร้าน”

แล้วหลังจากปรึกษาเรา เขาได้ทำธุรกิจไหม ?
“เราไม่ทราบเรื่องอะไรเลย บางคนบอกว่าเขาขายของอะไรอยู่ก็ไม่รู้ อนุโมทนาสาธุ”