Nissan X-Trail ใหม่ ถูกเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เน้นดีไซน์สวยงามโดดเด่น อ็อพชั่นเหนือชั้นระดับพรีเมี่ยม เคาะราคาเริ่มต้น 1.172 ล้านบาท

news

นิสสัน เอ็กซ์เทรล เป็นรถเอสยูวีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ที่มียอดขายในกลุ่มเอสยูวีมาเป็นอันดับ 1 รวมถึงได้รับรางวัลมากมายจากการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา

X-Trail โฉมใหม่ล่าสุดนี้ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว สะดุดตาด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโค้งมนยิ่งขึ้น ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, หลังคาแบบ Panoramic Sunroof, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว

 

 

ห้องโดยสารภายในยังถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีให้เลือกทั้งโทนสีเบจ (ในรุ่น 2WD) และโทนสีดำ (ในรุ่น 4WD) จัดวางที่นั่งแบบ 5+2 รวมถึงเพิ่มระยะฐานล้อให้ยาวยิ่งขึ้น ติดตั้งเครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Navigation และ Nissan Connect สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ต รวมถึงระบบ Around View Monitor ช่วยให้สามารถมองเห็นได้รอบทิศทางขณะถอยจอด, หน้าปัทม์เรืองแสงพร้อมจอ TFT 3 มิติสำหรับแสดงผลข้อมูลการขับขี่, ระบบกุญแจอัจฉริยะทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

 

 

นอกจากนั้น เบาะนั่งฝั่งผู้ขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง และผู้โดยสารปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง เบาะแถวสองพับแบบ 40:20:40 ได้ ขณะที่เบาะแถวสามสามารถพับเรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน ติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ประตูท้ายสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า เป็นต้น

 

 

เป็นครั้งแรกที่ Nissan X-Trail มาพร้อมระบบ Advanced Chassis Control ใหม่ ที่ประกอบไปด้วยระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะเข้าโค้ง Active Engine Brake, ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Active Ride Control, ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Active Trace Control, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาด HSA และช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ของเอสยูวีระดับนี้ในประเทศไทย

 

 

เครื่องยนต์ของ Nissan X-Trail ใหม่ มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.0 ลิตร ระบบไดเร็คอินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 200 นิวตัน-เมตร มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 233 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ X-TRONIC CVT พร้อมระบบ Manual Mode 7 สปีด

 

 

นิสสันตั้งเป้าจำหน่ายไว้ที่ 8,000 คันต่อปี มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย รวมถึงสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงเรเดียนท์, สีขาวสตอร์มไวท์, สีดำแบล็คสตาร์, สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์, สีเทาดีพอริสเกรย์ และสีเขียวมิดไนท์เจด

นอกจากนั้น นิสสันยังมีโปรโมชั่นสำหรับช่วงเปิดตัว ด้วยฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 2.44% หรือผ่อนสบายกับนิสสันอีซี่เพย์