สิ้นแล้ว ยายสม นักสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรม ชีวิตเคยนำไปสร้างหนัง

 

สิ้นแล้ว “ยายสม ยอดนักสู้” จบ ป.4 เรียนอ่านกฎหมายเอง จนเชี่ยวชาญ ขอความเป็นธรรมถูกโกงที่นา 24 ไร่ ที่ต่อสู้มากว่า 20 ปี เคยติดคุก 1 ปี เหตุบุกรุกที่ดินตัวเอง เคยเป็นข่าวดังหาเก็บหอยขุดปูขายสู้คดี และนำไปสร้างภาพยนตร์มาแล้ว

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก นางเลียน งามนัก ลูกสาวของ ยายสม งามอยู่ หรือ ยายสม ยอดนักสู้ ราษฎรเต็มขั้นแห่งอำเภอสังขะว่า คุณยายสม งามอยู่ ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 85 ปี ขณะนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านสเรียง ม.2 ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และได้กำหนดพิธีฌาปนกิจศพ ในวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค. 60 นี้ ณ เมรุวัดป่าวิเวกธรรมะโสภณ หรือวัดป่าบ้านสเรียง

เรื่องราวของ ยายสม ยอดนักสู้ หญิงชราชาว ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ถูกสังคมโซเซียลมีเดียและโลกออนไลน์ กระหน่ำแชร์ภาพและข้อความ ขณะขึ้นรถไฟฟรี เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จากกรณีที่ตัวเองและลูกชายถูกโกงที่ดินใน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนถึง 24 ไร่ ทั้งที่ในสถานะของ น.ส.3 ตามกฎหมาย ไม่สามารถขาย โอน หรือย้ายกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้อื่นได้

นางสม งามอยู่ พักอาศัยอยู่บ้านชั้นเดียวกับนางเลียน งามนัก ลูกสาว จากการสอบถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่า ยายสมและลูกชาย ยังเคยถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ข้อหาบุกรุกพื้นที่ซึ่งเป็นของตัวเองที่บรรพบุรุษให้เป็นสมบัติตกทอดกันมา

หลังจากออกจากคุก ได้ต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวนี้มาตั้งแต่ปี 2534 และภายหลังลูกชายได้ถูกทำร้ายและเสียชีวิต ทำให้ต้องต่อสู้กับคดีนี้โดยลำพัง แม้ลูกๆ จะพยายามห้ามปรามเพราะเกรงจะล้มป่วยจากการตรากตรำเดินทาง และคิดมากกับการต้องสู้ทวงคืนที่ดินจำนวน 24 ไร่ เพื่อมอบเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายให้ลูกทั้ง 5 คน ก่อนสิ้นลมหายใจ

คุณยายสม ยอดนักสู้ เรียนจบแค่ชั้น ป.4 เรียนอ่านหนังสือกฎหมายเอง เดินร้องทุกข์ปากเปล่า ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาทเท่านั้น หลังออกจากคุกมาก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม คดีของนางสม งามอยู่ เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาได้ตกเป็นข่าวใหญ่โตอยู่พักหนึ่ง จากการที่นางสมได้ออกหาเก็บหอย ขุดปูตามท้องนาไปขาย เพื่อเป็นค่ารถโดยสารประจำทาง ได้เดินทางไปร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมในคดีนี้เพื่อขอที่ดินคืน และได้ซื้อหนังสือกฎหมายมาอ่านเอง เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีที่ดิน จนสามารถเรียนรู้เชี่ยวชาญในกฎหมายด้านต่างๆ เกี่ยวกับที่ดิน และเดินเรื่องต่อสู้เพื่อเอาที่ดินของตนกลับคืนมาอย่างต่อเนื่อง
แต่จนแล้วจนรอดตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา การร้องเรียนของ ยายสม งามอยู่ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าจนถึงปัจจุบัน แม้เป็นข่าวโด่งดังมาแล้วก็ตาม

ข้าราชการที่ทำคดีที่ดินของยายสม ต่างเกษียณอายุราชการไปหลายราย บางรายเสียชีวิตไปแล้ว และเรื่องราวชีวิตของยายสม ยังมีผู้เอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว แต่ไม่โด่งดัง และกลับมาโด่งดังอีกครั้งในยุคดิจิตอล

และเมื่อปี 2557 นายธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำ จ.สุรินทร์ และทีมข่าวสุรินทร์ ได้พายายสม งามอยู่ เข้าร่วมการแข่งขันรายการเรียลลิตี้ คนดี พิชิตโกง (Corruption Fight The Reality Show)” ออกอากาศทางช่อง one สนับสนุนรายการโดย สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) จนเป็นผู้ชนะการแข่งขันในที่สุด จากการโหวตของคนไทยทั้งประเทศ นายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือดีเจเพชรจ้า มอบเงินรางวัล จํานวน 1 ล้านบาท ให้กับคุณยายสม งามอยู่ หญิงชราสู้ชีวิต ซึ่งยายสม ยอดนักสู้ ได้นำมาซื้อที่นาคืนได้สำเร็จ ก่อนตายตาหลับ

นางเลียน งามนัก ลูกสาวของยายสม กล่าวว่า ยายสม สมองหลงๆ ลืมๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ เดินก็ล้มหัวแตกหลายครั้ง พาไปรักษาตัวที่ รพ.สังขะ 2 ครั้ง กลายเป็นอัมพาตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ประมาณ 1 ปี ตนคอยปรนนิบัติ ป้อนข้าวป้อนน้ำ ดูแลทุกอย่าง ยายสมเสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ 06.08 น. ของวันที่ 18 ต.ค. 60 ซึ่งก่อนเสียชีวิต พูดไม่ได้ ได้แต่ทำปาก ตนคิดว่ายายสมหมดห่วงทุกอย่างแล้ว ลูกหลานและตนพยายามบอกแก่ว่า “ที่นาเขาก็ให้คืนแล้วนะแม่” ถ้าบอกดวงวิญญาณของยายสม ยอดนักสู้ ตนอยากบอกว่า “ลูกหลานทุกๆ คนไม่มีอะไรที่จะทำให้แม่ต้องเป็นห่วง”

นายจักรวาล อยู่วิจิตร อายุ 52 ปี ชาวบ้านสเรียง ม.2 ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า หนังสือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เล่มนี้ เป็นหนังสือที่คุณยายสม งามอยู่ ได้ไปค้นคว้าหามาจนได้ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายมาตราต่างๆ การที่คนแก่ๆ คนหนึ่ง มาเรียนรู้กฎหมายด้วยตนเอง มันสะท้อนถึงการแบ่งชนชั้นวรรณะ หรือการรับรู้ในด้านกฎหมาย ถ้าพวกเราคนยุคใหม่ย้อนอดีตได้ กลับไปอยู่ในยุคที่ยายสมอยู่จริงๆ จะรู้ว่า การที่แกมาเรียนรู้เรื่องกฎหมาย เรื่องนี้มันจะต้องไปถึงไหนต่อไหน เพราะว่าสมัยที่หนังสือกฎหมายต่างๆ ยังไม่แพร่หลายอย่างในปัจจุบัน คุณยายไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อยายสมเรียนรู้กฎหมาย ได้ออกมาปกป้องและเรียกร้องสิทธิ์ไปยังหน่วยงานรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานนายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยายสมไปหมด ยายไม่ได้ไปร้องเรียน แต่ยายไปขอความเป็นธรรม ยายหาทุนเดินทางไปด้วยตนเอง มีเงินเท่าไหร่ ยายไปเท่านั้น มีคนสนับสนุนยายค่ารถเมล์ ค่ารถแท็กซี่ เพราะคนอยากช่วย ยายสม ยอดนักสู้คนนี้