news

 

ความคืบหน้ากรณีที่ นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือ น้องคิว อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ภาคเคมี แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน 36,700 บาท
เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นเสาหลักได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา ส่วนพ่อแท้ๆ ก็ทิ้งไปตั้งแต่น้องคิว 4 ขวบ ขณะที่พ่อเลี้ยงหลังแม่เสียชีวิตแล้วก็ไม่เหลียวแลและไม่ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย จนนายอธิวัฒน์ หรือน้องคิว ต้องไปขออาศัยอยู่กับนางจันทร์จิรา เกียรตินอก อายุ 43 ปี ผู้เป็นป้า ที่มีอาชีพขายข้าวแกง

หลังจากมีการแชร์เรื่องราวผ่านโลกโซเชียลก็มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือน้องคิวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ล่าสุดนายอธิวัฒน์ พร้อมนางจันทร์จิรา ผู้เป็นป้า ก็ได้เดินทางไปเบิกเงินจากธนาคารกรุงไทยสาขาธานี
ที่มีผู้บริจาคช่วยเหลือจำนวน 36,700 บาท แล้วนำไปโอนจ่ายค่าเทอมผ่านธนาคารกรุงเทพสาขาบุรีรัมย์ ให้กับทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามที่มีกำหนดให้จ่ายภายในวัน 13 – 15 มีนาคม 2560 เพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าศึกษาเรียบร้อยแล้ว
สร้างความดีใจให้กับน้องคิวเป็นอย่างมากที่ได้เข้าศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ตามความฝันและคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ก่อนเสียชีวิต

ขณะที่ พ.ญ.เสาวณีย์ แสงอรุณ แพทย์เจ้าของคลินิกแถว ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย พ.ญ.สิริพร วิเชษฐพงศ์ และ นพ.สมเกียรติ วิเชษฐ์พงศ์ แพทย์จากโรงพยาบาล จ.ร้อยเอ็ด ได้ประสานผ่านมายัง นพ.สนธยา วัฒนโกศล คลินิกหมอสนธยา จ.บุรีรัมย์ ว่ามีความต้องการจะช่วยเหลือน้องคิว โดยจะส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรี และหากช่วงที่ศึกษาอยู่น้องคิว เจ็บป่วยก็พร้อมจะรักษาให้ฟรี พร้อมระบุด้วยว่าหากเงินที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญ ไม่เพียงพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อ ก็พร้อมจะส่งเสียจนศึกษาจบตามความฝัน พร้อมยังระบุด้วยว่าหากศึกษาจบแล้วก็ไม่ต้องการอะไรตอบแทน เพียงอยากให้น้องคิว เป็นเด็กดี มีงานทำที่มั่นคงสามารถเลี้ยงตัวเองได้และช่วยเหลือสังคมเท่านั้น

นายอธิวัฒน์ หรือน้องคิว ได้กล่าวขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่บริจาคเงินช่วยเหลือ และผู้ที่ส่งกำลังใจมาให้ซึ่งขณะนี้ก็มียอดเงินเพียงพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อได้ตามความฝันแล้ว และได้ปรึกษากับป้าถึงการวางแผนใช้จ่ายเงินที่ได้รับบริจาคให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ตามจุดประสงค์ของผู้ใจบุญที่มีจิตเมตตาบริจาคช่วยเหลือมา โดยหลักๆ คือแบ่งไว้เป็นค่าเทอมปีละ 2 เทอม เป็นระยะเวลา 4 ปี ที่เหลือก็เป็นค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในระหว่างศึกษาจนจบ และหากศึกษาจบตามฝันและได้ทำงานที่เพียงพอเลี้ยงตัวเองได้ ก็จะตอบแทนบุญคุณของป้าที่ดูแลมาตลอด และหากมีอะไรที่ทำเพื่อสังคมได้ก็พร้อมจะทำ ที่สำคัญหากมีงานที่มั่นคงแล้วก็พร้อมจะช่วยเหลือน้องๆ ที่ขาดโอกาสเหมือนกับตนเองเหมือนกับที่ตน ได้รับโอกาสจากผู้ใจบุญเช่นกัน

ด้านนางจันทร์จิรา เกียรตินอก ป้าน้องคิว บอกว่า ขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยเหลือหลานชาย จนมีค่าเทอมได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตามฝัน ซึ่งตนก็จะช่วยดูแลการใช้จ่ายเงินของหลานให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าตามเจตนาของผู้ที่บริจาคช่วยเหลือ ส่วนยอดเงินที่บริจาคมาช่วยเหลือขณะนี้ก็เพียงพอที่จะส่งเสียหลานชายได้ศึกษาจนจบแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยยอดเงิน เพราะหลังจากเป็นข่าวว่ามีเงินบริจาคมาเป็นจำนวนมากก็มีญาติเริ่มมาคุกคามแล้ว จึงเกรงความไม่ปลอดภัยของหลานชาย แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะปิดบังแต่อย่างใด หากผู้ใจบุญต้องการทราบยอดก็สามารถโทรมาสอบถามโดยตรงได้