news

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยกรณีเหตุการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นางอำไพ บุญยัง อายุ 37 ปี หลังพบรอยเขียวช้ำที่บริเวณลำคอ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการทะเลาะวิวาทของแฟนหนุ่มชาวต่างชาติกับชาวไทยในหมู่บ้าน ด้วยปมประเด็นหึงหวงฝ่ายหญิง

ร.ต.ท.วีระ พะวา ร้อยเวร สภ.เขาบางแกรก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บ้านของ นายเสริมศักดิ์ ปาละสูตร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านป่าพริก เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะพบว่า นางอำไพ เสียชีวิตเป็นปริศนา

นายเสริมศักดิ์ ให้การว่า เมื่อวันเกิดเหตุ นางอำไพ กับแฟนหนุ่มชาวเดนมาร์ก นายเพลลี่ เจนเซ่น ได้เดินทางเข้าไปในตัวอำเภอ เพื่อเลือกซื้อของเตรียมงานบุญอุปสมบทหลานชาย โดยมี นายชาตรี ปาละสูตร เพื่อนที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันเดินทางไปด้วย

หลังจากทั้ง 3 คนทำธุระเสร็จ จึงได้ขับรถไปเที่ยวที่เขื่อนทับเสลา ดื่มเหล้าสังสรรค์กันตลอดวัน ก่อนที่ช่วงค่ำจะกลับมานั่งดื่มกันต่อที่บริเวณบ้านนายเสริมศักดิ์ จนต่างฝ่ายต่างมึนเมาและขาดสติ นายเพลลี่ ที่ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เกิดอาการหึงหวงแฟนสาว จึงเริ่มมีปากเสียงกับ นายชาตรี ที่ร่วมวงเหล้าด้วย ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มชกต่อยกัน ญาติพี่น้องที่เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้าม แต่ฝ่ายของนายเพลลี่ ถูกพ่อของนายชาตรีใช้ไม้ไผ่ตี จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

แต่ต่อมาอีกไม่ถึงชั่วโมง นายเพลลี่ กับ นายชาตรี ทะเลาะวิวาทมีเรื่องกันอีกครั้งที่ด้านหลังบ้าน ญาติจึงรีบเข้าไปช่วยห้ามอีก แต่พบเห็น นางอำไพ ล้มนอนฟุบอยู่ที่พื้น เบื้องต้นคิดว่าเมาหมดสติ แต่เมื่อประคองร่างขึ้นมา ปรากฎว่า นางอำไพ ไม่รู้สึกตัวและไม่ตอบสนอง จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลในตัวเมือง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบรอยเขียวช้ำที่ลำคอและมีแผลถลอกตามร่างกาย

ทั้งนี้ ร.ต.ท.วีระ ระบุว่า คดีดังกล่าวยังค่อนข้างมีเงื่อนงำ เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของ นางอำไพ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีส่วนเกี่ยวกับเหตุทะเลาะวิวาทปมหึงหวง ระหว่าง นายเพลลี่ กับ นายชาตรี หรือไม่ อีกทั้งคดีนี้เป็นเรื่องในครอบครัวและต่างฝ่ายต่างมึนเมา จึงต้องสืบสวนอย่างระมัดระวัง ขณะที่เชิญตัว นายชาตรี กับ พ่อ มาให้ปากคำ และเชิญ นายเพลลี่ มาสอบสวนอีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นงานศพ