news

เจองานเข้าแบบเต็มๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” หลังลงทุนบันทึกคลิปวีดีโอความยาวเกือบ 11 นาที เพื่อระบายความในใจและปกป้องเพื่อนรัก “เอมมี่ มรกต กิตติสาระ” ในประเด็นดราม่า “บัตรคอนเสิร์ต 25ใบ” พร้อมฝากประโยคเด็ดไปยังกลุ่มคนที่มาคอมเม้นท์ด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า “ผมอยากให้คุณใช้หัวคิด ไม่ใช่ใช้หัวนมตัวเองคิด”

ซึ่งวิธีการดังกล่าวนอกจากจะทำให้เรื่องราวลุกลามหนักขึ้นกว่าเก่าแล้วนั้น ยังส่งผลให้เกิดคำถามตามมาอีกว่า การซื้อบัตรผีของเจ้าตัวและเพื่อนคือวิธีที่สมควรกระทำจริงหรือ !?

โดยล่าสุด (6 ก.ค. 2558) หนุ่ม ซี ศิวัฒน์ ก็ได้ถือโอกาสเชิญสื่อมวลชนร่วมฟังการเปิดใจถึงกรณีดราม่าดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษคนไทย รวมถึงแฟนคลับศิลปินวง Maroon5 ที่ทำให้รู้สึกผิดหวังกับคำพูดและการกระทำที่ขาดการยั้งคิด…

วันนี้เห็นว่าเรามีอะไรอยากจะชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องบัตรคอนเสิร์ต ?
“จริงๆ วันนี้คุณเอมมี่เขาตั้งใจจะมาด้วยนะครับ แต่ด้วยสภาพจิตใจของเขายังไม่พร้อมที่จะออกมาร้องไห้ต่อหน้าสื่อ ก็เลยอาจจะต้องรอให้เขาแข็งแรงกว่านี้ก่อนแล้วค่อยมาชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้ทุกคนฟัง”

“ก่อนอื่นเลย ผมต้องกราบขอโทษต่อสิ่งที่ผมได้ทำลงไปทั้งเรื่องการใช้คำพูดต่างๆ ที่ผมพูดออกไปในคลิป แต่ผมต้องอธิบายก่อนว่าวันนั้นมีคนอินบ็อกเข้ามาทางเฟซบุ๊คของผม โดยบอกว่าผมมีความคิดแบบนี้ก็เพราะพ่อแม่ บอกว่าแม่ผมเป็นโสเภณี บอกว่าพ่อผมเป็นแมงดา รวมถึงใช้คำใต้สะดือด่าทอไปถึงครอบครัวคุณเอมมี่ ซึ่งพ่อใครแม่ใครใครก็รักนะครับ ผมยอมรับครับว่าผมโกรธในนาทีนั้น ผมยอมรับผิดที่ผมคิดน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกคุณสามารถว่าผมได้ครับ ตำหนิผมได้ แต่อย่าด่าว่าพ่อแม่ผมเลย ท่านสอนผมมาดีแล้ว แต่เป็นเพราะผมเองที่ไม่ดี”

“ผมยอมรับในความคิดผิดๆ ของผม ผมยอมรับว่าความอยากได้อยากมีของผม ทำให้ผมเผลอคิดไปว่าไอ้สิ่งที่ทำอยู่มันถูก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมันผิด ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นขายบัตร แต่ผมก็เป็นคนซื้อบัตรพวกนั้น ซึ่งสุดท้ายผมก็ไปอยู่ในวงจรนั้นอยู่ดี และทำให้กระบวนการผิดๆ นั้นเกิดขึ้นในสังคม ผมต้องขอโทษทุกคนอีกครั้งครับวันนี้ผมได้เรียนรู้แล้ว”

สาเหตุที่ออกมาแถลงข่าววันนี้เป็นเพราะผู้ใหญ่แนะนำหรือยังไง ?
“ไม่มีใครแนะนำเลยครับ ส่วนใหญ่ท่านจะให้กำลังใจผมมากกว่า เพราะเอาจริงๆ เรื่องพวกนี้มันก็เกิดขึ้นเพราะปากของผมเอง”

กลัวไหมว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์เรา ?
“กระทบอยู่แล้วครับ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเหตุการณ์นี้มันก็ช่วยเตือนสติผม ทำให้ผมได้รู้ว่าอย่าเชื่อมั่นในตัวเองจนเกินไป เพราะถึงแม้ผมจะใช้เงินที่ผมหามาอย่างสุจริตซื้อ แต่ผมก็ได้ขโมยหัวใจของคนที่พร้อมต่อแถวดูคอนเสิร์ตเช่นเดียวกัน วันนี้ผมเพิ่งเข้าใจว่าที่ผ่านมาผมทำผิดบ่อยมากซะจนคิดว่ามันถูก คือคนเราถึงแม้จะโกงมากโกงน้อยยังไงมันก็คือการโกงอยู่ดี”

เรายังตัดสินใจที่จะไปดูคอนเสิร์ตอีกไหม ?
“ผมคงไม่ไปดูแน่นอนครับ เพราะถ้าไปผมคงต้องเอาปี๊บคลุมไปด้วย อีกอย่างการไปดูคอนเสิร์ตมันก็คงไม่สนุกแล้ว”

ตั้งใจไม่ไปดูทุกคนหรือว่าไม่ไปดูทุกคน ?
“ในส่วนของเพื่อนๆ คนอื่นไม่ทราบนะครับ แต่ว่าผมกับคุณเอมมี่ไม่ไปแน่นอน ซึ่งบัตร 2 ใบนี้สุดท้ายแล้วเราจะจัดการกับมันยังไงนั้นเดี๋ยวค่อยๆ หาวิธีคิดกันอีกทีครับ”

กับเรื่องที่เราบอกว่าใช้หัวนมคิดมันคือการประชดใช่ไหม ?
“ใช่ครับ มันคือการประชด เพราะตอนนั้นผมระบายความโกรธโดยไม่ผ่านการย้ำคิดอะไรทั้งสิ้น ซึ่งกว่าผมจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปมันก็สายไปซะแล้ว”

สรุปบัตรทั้ง 25ใบ ได้มาด้วยวิธีการไหน ?
“ถ้าในส่วนของผม ผมซื้อในราคาพิเศษครับ แต่จะมีการล็อคหรือไม่ผมตอบไม่ได้ครับ เพียงแค่วิธีการที่ผมได้ตั๋วมามันไม่แฟร์จริงๆ เพราะผมไม่ได้คลิกเอง ซึ่งในส่วนของคุณเอมมี่ มรกต เขาจะมีทีมงานช่วยคลิกหรือเขาคลิกเองยังไงนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ”

บัตรทั้ง 25ใบ นั่งติดกันเลยหรือเปล่า ?
“ถ้าแค่ 5 ใบของผม ผมคิดว่าติดครับ แต่ในส่วนของทั้งหมด 25 ใบ นั่งติดกันไหม อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ เพราะผมยังไม่ได้เห็นบัตร แต่คิดว่าน่าจะโซนเดียวกันทั้งหมด”

สภาพจิตใจของแต่ล่ะคนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนนี้ต่างคนต่างก็ต้องปลอบใจตัวเองครับ อย่างในส่วนของคุณเอมี่เขาเองก็เสียใจมาก เพราะเขาโทษตัวเองตลอดว่ามันเป็นความผิดของเขาที่ทำให้เรื่องเกิดขึ้น ส่วนผมเองก็ผิดที่ตั้งอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลใช้คำพูดไม่สุภาพออกไปจนเรื่องราวใหญ่โต”

อย่างกรณีล่าสุดเขาก็มองว่าปากเราพาจนทำให้เรื่องกระทบไปถึงเพื่อนๆ นักแสดงคนอื่น ?
“ใช่ครับ มันคือเรื่องจริง”

กลัวไหมว่ามันจะทำให้คนมองว่าดารามีสิทธิพิเศษกว่าคนปกติ ?
“กระทบแล้วแน่นอนครับ และวันนี้ผมต้องขอกราบขอโทษพี่ๆ น้องๆ ศิลปินดารา เซเลบฯ ทุกท่านด้วยที่ผมทำให้เดือดร้อนเพราะความคิดน้อยของผม หลังจากนี้ผมสัญญาว่าจะมีสติให้มากขึ้นครับ”